“หมอเฉลิมชัย” เปิดผลศึกษาน่าตื่นตะลึง ทารกในครรภ์ รับรู้รสชาติอาหารที่แม่ทานได้ ชอบรสหวาน ไม่ชอบรสขม
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย เรื่อง น่าตื่นเต้น เด็กในท้องแม่ รับรู้ถึงรสชาติของอาหารได้ด้วย โดยยิ้มเวลาแม่ทานแครอท และหน้าเบ้เหมือนร้องไห้เวลาแม่ทานผักที่ขม
เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า เด็กมักจะไม่ค่อยชอบทานผัก เพราะมีรสขม แต่ชอบทานสิ่งที่มีรสหวาน
จนเมื่อได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสูงอายุ ก็จะทานผักที่มีรสขมได้ดีมากขึ้น
แต่ยังไม่เคยมีหลักฐานจากการศึกษาว่า ทารกในครรภ์มารดาจะเกลียดผักเหมือนตอนที่คลอดออกมาแล้วหรือไม่
มีรายงานการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Durham ของอังกฤษ ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ J.Psychological Science พบข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
เป็นการศึกษาคุณแม่ 100 คน มีอายุระหว่าง 18-40 ปี อายุครรภ์ระหว่าง 8-9 เดือน โดยเป็นหญิงผิวขาวชาวอังกฤษทั้งหมด
แบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 3 กลุ่ม คือ
กลุ่มที่หนึ่ง 35 คนให้ทาน Kale capsule (ผักชนิดหนึ่ง)
กลุ่มที่สองอีก 35 คม ทาน Carrot capsule
กลุ่มสุดท้าย 30 คน เป็นกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้ทานทั้งสองอย่าง
โดยได้กำหนดไม่ให้คุณแม่ทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มใดใดเลย 1 ชั่วโมงก่อนที่จะมาทำการสแกนดูพฤติกรรมของทารกในครรภ์ และไม่ให้คุณแม่ทานทั้งผัก Kale และ Carrot หนึ่งวันก่อนหน้านั้น เพื่อป้องกันการรบกวนการศึกษา
เป็นที่ทราบกันดีว่า แครอทนั้นมีรสชาติค่อนข้างหวาน และผักแคลี่นั้นมีรสขม ขมมากกว่าผักทั่วไปทั้งบล็อกเคอรี่และหน่อไม้ฝรั่ง
หลังจากที่แม่ได้ทานเข้าไปแล้วประมาณ 20 นาที ทีมนักวิจัยก็จะทำการสแกนอัลตราซาวด์ เพื่อดูทารกในท้องแม่
โดยใช้หลักว่า ถ้าเห็นมุมปากบนชี้ขึ้น ก็แปลว่าเด็กนั้นยิ้ม หัวเราะ หรือมีความพึงพอใจ
ถ้ามุมปากเบ้ลงข้างล่าง ก็แสดงว่าไม่ชอบใจ หรืออาจจะถือว่าหน้าเบ้คล้ายร้องไห้
ด้วยเทคโนโลยีของอัลตราซาวด์ ซึ่งมีความก้าวหน้าอย่างมากนี่เอง ทำให้งานวิจัยครั้งนี้สามารถตอบปัญหาที่ว่า ตัวอ่อนมีความสามารถมากน้อยเพียงใด ในการรับกลิ่นและรสชาติอาหารเมื่อเวลาอยู่ในท้องของแม่
B.Ustun นักวิจัยหลังการศึกษาปริญญา ที่ Durham University ได้กล่าวว่า เป็นการศึกษาที่อาจจะเรียกว่าเป็นครั้งแรกในโลก ที่สามารถยืนยันความสามารถของทารกดังกล่าวได้
และผลออกมาชัดเจนว่า ทารกชอบแครอทที่มีรสหวาน และเกลียดผักแคลี่ที่มีรสขม แม้จะเป็นเพียงการที่แม่ทานอาหารนั้นเข้าไปก็ตาม แต่เด็กก็สามารถรับรู้จากอาหารที่แม่ทานได้
จะมีการศึกษาในเฟสต่อไป เพื่อจะติดตามเด็กทั้งหมดว่า เมื่อคลอดออกมาแล้ว จะมีลักษณะของการชอบหรือไม่ชอบอาหารรสชาติอย่างไร แตกต่างกับสมัยอยู่ในท้องหรือไม่
นอกจากนั้นจะมีการศึกษาเพิ่มเติมในคนต่างเชื้อชาติ ต่างวัฒนธรรม โดยเฉพาะวัฒนธรรมการทานอาหาร เพื่อที่จะดูผลว่า จะแตกต่างกันหรือไม่ เช่น คนตุรเกียชอบทานอาหารที่มีรสขม ก็จะดูว่าผลการวิจัยเด็กจะชอบรสขมในท้องเหมือนที่แม่ชอบหรือไม่
เป็นงานวิจัยที่น่าสนใจ และเปลี่ยนแปลงความเชื่อของมนุษย์ไปมากทีเดียว ที่สมัยก่อนคิดว่าทุกอย่างจะมารับรู้รับทราบกันเมื่อคลอดเป็นทารกแล้ว
แต่ในวันนี้ เรามีความรู้ทางด้านวิจัยและทางด้านวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนว่า ทารกในท้องแม่นั้นรู้อะไร รับทราบอะไร ชอบไม่ชอบอะไร มากกว่าที่เราเคยเชื่อกันมามากทีเดียว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- โควิดเป็นโรคเฝ้าระวัง มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง ‘หมอเฉลิมชัย’ สรุปไว้แล้วทุกเรื่อง
- ห่วงคนท้องติดโควิด ‘หมอนิธิพัฒน์’ เตือนฉีดวัคซีนถึงเข็มกระตุ้น
- ห่วงเด็กเล็ก ป่วยโรคมือ เท้า ปาก มากสุด เช็ควิธีป้องกัน-สังเกตอาการ ที่นี่!!