ศุกร์ (สุข) ละวัด ในวันมาฆบูชากับ ‘ทะเลธุง’ ที่เมืองฟ้าแดดสงยา ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ธุงใยแมงมุม สื่อสัญลักษณ์ความเชื่อ โชคลางของชาวอีสาน เชื่อกันว่าสามารถใช้ป้องกันสิ่งร้ายๆ หรือสิ่งไม่ดีที่มองไม่เห็น
ศุกร์ (สุข) ละวัด วันนี้ไม่ได้พาเข้าวัด แต่จะพาไปดูประเพณีในวันมาฆบูชา เพื่อเป็นพุทธบูชาจำนวนนับไม่ถ้วน ตามความศรัทธาของชาวบ้าน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งรวมแรงรวมใจกันจัดงานจัดได้ยิ่งใหญ่ และสวยงามเลยในทุกๆ วันมาฆบูชาและวันวิสาขบูชา ที่จัดได้ยิ่งใหญ่และสวยงามมาทุกปี แต่ปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่งดจัดงานเนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิค- 19 แต่ปีนี้งดจัดงานแต่ยังคงมีการประดับธง
ใครจะแวะมาชมพร้อมถ่ายภาพ ความสวยงามของทะเลธุงได้ เรามาเริ่มกันที่พระธาตุยาคู หรือ พระธาตุใหญ่เจดีย์องค์ใหญ่ที่สุดในเมืองฟ้าแดดสงยาง (เมืองโบราณสมัยขอม ปัจจุบันเหลือแต่ซากอิฐปูนดิน) ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมก่อด้วยอิฐปรากฏการก่อสร้าง 3 สมัย ด้วยกันคือ ส่วนฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมย่อมุมมีบันไดทางขึ้น 4 ทิศ มีปูนปั้นประดับสร้างในสมัยทวารวดี ถัดขึ้นมาเป็นฐานรูปแปดเหลี่ยมซึ่งสร้างซ้อนทับบนฐานเดิมเป็นรูปแบบเจดีย์ในสมัยอยุธยา ส่วนองค์ระฆังและส่วนยอดสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ รอบ ๆ องค์พระธาตุพบใบเสมาแกะสลักภาพนูนต่ำเรื่องพุทธประวัติ
ชาวบ้านเชื่อกันว่าในองค์พระธาตุบรรจุอัฐิ ของพระเถระผู้ใหญ่ที่ชาวเมืองเคารพนับถือ จึงเรียกกันว่า พระธาตุยาคู “ญาคู” ภาษาอีสาน หมายถึงพระสงฆ์ผู้ใหญ่ในวัด สังเกตได้จากเมื่อเมืองเชียงโสมชนะสงคราม ได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองฟ้าแดดแต่ไม่ได้ทำลายพระธาตุยาคู จึงเป็นโบราณสถานที่ยังคงสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ชาวบ้านจะจัดให้มีงานประเพณีบุญบั้งไฟเป็นประจำทุกปีในเดือนพฤษภาคมเพื่อเป็นการขอฝนและความร่มเย็นให้แก่หมู่บ้าน ที่ตั้งของพระธาตุยาคูบ้านเสมา ถนนทางหลวงหมายเลข 2367 ตำบลโนนศิลาเลิง อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์
เมื่อถึงเทศกาลวันมาฆบูชา และ วันวิสาขบูชา ชาวเมืองฟ้าแดดสงยางพร้อมใจกันทำธงเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาเป็นจำนวนมาก จนกลายเป็นทะเลธง ที่มองไปไกลสวยงามตระการตา นอกจากนี้ยังมีการฟ้อนรำจากชาวบ้านในละแวกนี้และการแสดงแสงสีเสียงที่ชาวบ้านร่วมมือร่วมใจกันจัดแสดงขึ้นมาเพื่อบูชาพระธาตุยาคู
“ธุง” เป็นคำเรียกงานไหมพรมที่นำมาพันแกนไม่ไผ่ที่ผูกกันสามชิ้น เมื่อพันไหมพรมรอบแกนไปเรื่อยๆ จะเกิดเป็นรูปหกเหลี่ยม ใช้ไหมพรมหลายๆ สี เพิ่มความสวยงาม ทำหลายๆ ชิ้นให้มีสีและลายแบบเดียวกันแล้วเอามาแขวนไว้กับเสา บางพื้นที่เรียกงานแบบนี้ว่าตุง ส่วนคำว่าธุง เพิ่งเคยมาได้ยินที่กาฬสินธุ์ ไม่มีใครอธิบายที่มาได้ แต่เราว่าน่าจะเกิดจากการผสมคำระหว่างคำว่า ธง กับ ตุง เพราะว่าตุงน่าจะเป็นคำเรียกตุงภาคเหนือมีลักษณะเป็นผ้าผืนยาวๆ ที่ทอด้วยลวดลายที่เกี่ยวข้องกับศาสนา
ความรู้ก่อนเที่ยว “ธุงใยแมงมุม”
ธุงใยแมงมุม เป็นสื่อสัญลักษณ์ความเชื่อเรื่องโชคลางของชาวอีสาน โดยเชื่อกันว่าสามารถใช้ป้องกันสิ่งร้ายๆ หรือสิ่งไม่ดีที่มองไม่เห็น อย่างเช่น ภูตผีวิญญาณต่างๆ ที่จะมารบกวนงานบุญนั่นเอง ธุงทำมาจากเส้นด้ายที่ได้มาจากฝ้าย หรือเส้นไหม ผูกโยงกันคล้ายใยแมงมุม นิยมใช้แขวนตกแต่งบริเวณหน้าพระประธาน หรือโดยรอบพื้นที่จัดงานพิธีกรรม เพราะฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจหากไปร่วมงานเทศกาลต่างๆ ของภาคอีสาน ทุกคนจะได้
เห็นเจ้าธุงใยแมงมุมประดับตกแต่งอยู่
ชาวบ้านจะร่วมกันทำธุง มาถวายองค์พระธาตุยาคูเป็นประจำปีละ 2 ครั้ง คือวันมาฆบูชา และวันวิสาขบูชา แรกเริ่มเดิมที จะเป็นธุงขนาดเล็กใช้ถือคนเดียวมาปักรอบองค์พระธาตุ ต่อมาชาวกมลาไสยนำธุงมาปักเป็นจำนวนมากขึ้นๆ และเพื่อให้การปักธุง มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงามและสามารถเพิ่มจำนวนธุงให้มากเท่ากับความศรัทธาจึงได้นำมาผูกบนเสาสูงเรียงรายในลานหน้าองค์พระธาตุ เกิดภาพเกิดภาพที่สวยงามจนได้รับคำ
ขนานนามว่า “ทะเลธุง”
ลักษณะเด่นของธงที่พันด้วยไหมพรมเส้นด้ายบางๆ รวมกันมีความโปร่งแสง อวดสีสันได้ไม่ว่าจะถ่ายรูปตามแสงหรือย้อนแสง ได้ความสวยงามตื่นตากับจำนวนที่มากมายนับไม่ถ้วน เหมือนยืนอยู่กลางหมู่ดาวหลากสี เหมือนแสงแห่งแรงศรัทธาชาวกมลาไสยที่ค่อยๆ พันด้ายทีละรอบๆ หลอมรวมศรัทธาอันแรงกล้าในพระพุทธศาสนาเป็นหนึ่งเดียวกัน ใช้เวลานานนับเดือนจนได้จำนวนมากพอมาแขวนรวมไว้ที่นี่ ในมุมมองของคนมาเที่ยวก็ได้ภาพสวยที่หนึ่งปีจะมีแค่สองครั้ง ภาพนี้เป็นครั้งแรกในปี 2562 จากการจัดงานมาฆปูรมี ทวารวดีมิ่งหล้า เมืองฟ้าแดดสงยาง เนื่องในวันมาฆบูชา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ศุกร์ (สุข) ละวัด ที่วัดจำปา เขตตลิ่งชัน
- ศุกร์ (สุข) ละวัด : วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร
- ศุกร์ (สุข) ละวัด ที่ ‘วัดสมเด็จ’ สังขละบุรี กาญจนบุรี