พลังงานชีวมวล กำลังกลายเป็นแหล่งพลังงานทางเลือก ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลก มีการผลิตกระแสไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล ขณะที่เทคโนโลยีถูกพัฒนาให้ทันสมัย ทำให้เชื้อเพลิงจากชีวมวลที่มีอยู่มหาศาล มีบทบาทสำคัญเทียบเคียงกับแหล่งพลังงานอื่น
ทั่วโลกกำลังเร่งพัฒนาการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และความต้องการพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน ทำให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น เพื่อทดแทนการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วโลก ที่มีสัดส่วนมากถึง 81% ของปริมาณการใช้พลังงานทั้งหมด โดยแหล่งพลังงานมาจากถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ
การผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล ของโรงไฟฟ้าชีวมวลในต่างแดน
ในปี 2561 กระแสไฟฟ้าจากชีวมวลทั่วโลกประมาณ 637 เทราวัตต์ต่อชั่วโมง โดย 66% เป็นชีวมวลอัดเม็ด ตามมาด้วยขยะชุมชนและขยะอุตสาหกรรม และก๊าซชีวภาพ มีสัดส่วน 14% และระหว่างปี 2543-2561 อัตราการเติบโตของการผลิตกระแสไฟฟ้าในแต่ละปี 8% ส่วนมาก เนื่องมาจากการใช้ชีวมวลอัดเม็ดเพิ่มขึ้น
สมาคมชีวมวลโลก (WBA) ประเมินว่าการจ้างงานในภาคพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดหาแหล่งเชื้อเพลิงจนถึงการผลิตกระแสไฟฟ้า
ส่วนที่มีการจ้างงานมากที่สุด คือ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ รองลงมาพลังงานชีวภาพ พลังงานน้ำ และพลังงานลม
แต่ละประเทศได้ประโยชน์ และกำลังก้าวไปในทิศทางเดียวกัน ในการใช้เชื้อเพลิงชีวมวล เพื่อทดแทนเชื้อเพลิงที่ใช้แล้วหมดไปอย่างฟอสซิล
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- (คลิป) พลังงานชีวมวล เมกะเทรนด์การพัฒนายั่งยืน
- (คลิป) โมเดลความสำเร็จของโรงไฟฟ้าชีวมวลพรานกระต่าย กำแพงเพชร
- (คลิป) ปัญหาและอุปสรรคที่โรงไฟฟ้าชีวมวลต้องเผชิญ
- (คลิป) กำลังผลิตไฟฟ้าสำรอง กลไกสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงด้านพลังงาน