วินัย ไกรบุตร ทุกข์ทรมาน 5 ปีกับโรคตุ่มน้ำพอง ขอขมาเจ้ากรรมนายเวร ก่อนเดินทางไกล

23 มีนาคม 2567

เมฆ วินัย ไกรบุตร พระเอกร้อยล้านคนแรกของไทย ทุกข์ทรมาน 5 ปีกับโรคตุ่มน้ำพอง ขอขมาเจ้ากรรมนายเวร ก่อนเดินทางไกล

ท่ามกลางความอาลัยจากเพื่อน ๆ ในวงการบันเทิง ตลอดจนแฟนคลับที่ติดตามและให้กำลังใจมาโดยตลอด หลังจากที่พระเอกร้อยล้านคนแรกของไทย เมฆ-วินัย ไกรบุตร ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยวัยเพียง 54 ปี ซึ่งตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เมฆ ก็ได้ต่อสู้กับโรคโรคตุ่มน้ำพองมาหลายปี จนกระทั่งในวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา เกิดภาวะความดันตก ติดเชื้อในกระแสเลือด กระทั่งหัวใจหยุดเต้น นำมาซึ่งการเสียชีวิตในที่สุด

อาการป่วยเริ่มต้น วินัย ไกรบุตร

สำหรับอาการป่วยของ เมฆ ต้องย้อนกลับไปประมาณ 5 ปีที่แล้ว พระเอกดังเริ่มจากการคันที่มือ ก่อนที่จะขึ้นเป็นวง และตุ่มเล็กๆ จึงตระเวนพบแพทย์ และฉีดยา ตุ่มต่างๆ ก็ยุบ จึงไปถ่ายละครต่อ โดยเป็นอยู่แบบนี่ไปพบแพทย์อยู่ 10 ครั้ง กระทั่ง มิถุนายน จึงปล่อย ทำให้มีตุ่มขึ้นทั้งตัว ทั้งแขน ขา ยกเว้นอวัยวะเพศ

พร้อมกันนี้ยังเปิดใจว่า ไม่เคยคิดว่าโรคแบบนี้ และจะมาเกิดขึ้นกับตนเอง เท่าที่หาข้อมูลทราบว่า บางคนต้องรักษานานหลายเดือนหลายปี ช่วงที่ผ่านมา เป็นช่วงยากลำบาก ตนเองต้องตื่นมาตี 2 ทุกวัน มายืนดูตัวเองหน้ากระจก โดยส่วนตัวคาใจอยู่ 2 เรื่อง คือ ขอโทษทีมนักแสดง ผู้จัด และผู้กำกับละคร ที่กำลังแสดง และยังไม่สามารถปิดกล้องได้ และขอโทษแม่

ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เมฆ ต้องเข้า-ออกโรงพยาบาลอยู่ตลอดเวลา อาการมีขึ้น มีลง โดยที่ผ่านมาในช่วงเวลาที่ป่วย พระเอกดังก็ยังคงรับงานในวงการบ้างเป็นครั้งคราว รวมถึงมีการออกมาไลฟ์สด ทำอาชีพต่าง ๆ ที่นอกจากงานแสดงเพราะจะต้องนำรายได้ไปดูแลครอบครัว และการรักษาของตัวเองด้วย

วินัย ไกรบุตร ขอขมาเจ้ากรรมนายเวร

จนกระทั่งในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 เพื่อนสนิทอย่าง หนุ่ม คงกระพัน ได้พา คุณเอ๋ อรชัญญาช์ ภรรยาของวินัย มาพบ อ.ไพศาล แสนไชย ที่ จ.ลำพูน ซึ่ง เอ๋ บอกว่าทางการแพทย์โรคนี้หาสาเหตุไม่ได้ จะหายก็หายจากร่างกายเราเอง บางคนเดือนเดียวหาย บางคนเป็นสิบปี ภูมิร่างกายแข็งแรงเท่าไหร่ โรคนี้ก็จะแข็งแรงด้วย

โดย อาจารย์ไพศาล ได้บอกว่า เมฆเมือนทำกรรมอะไรไว้ ทำให้เป็นตุ่มน้ำพองรักษาไม่หาย เป็นเพราะอดีตชาติที่เจอมาจากบุพกรรมเก่า ในสมัยอยุธยาตอนปลาย พระเจ้าเอกทัศโปรดให้อำนาจกับเมฆ เมฆใช้อำนาในทางดีสร้างวัด สร้างโบสถ์ สร้างมัสยิด แต่เมฆใช้อำนาจในทางที่ผิด ทำโทษบริวารจับขังไว้ในที่มือด จำกัดการถ่ายหนักถ่ายเบา ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันจนเสียสุขภาพ โดยแนะนำให้ไปขอขมากรรมกับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ อีกทั้งในรายการ เอ๋ ยังได้เปิดภาพของมือ เมฆ ที่ข้างในมีน้ำเหลือง ต้องคอยดูดให้ทุก ๆ สองชั่วโมง

ในเวลาต่อมา เมฆ ก็ได้ไปขอขมากรรม ซึ่งเชื่อว่าเป็นเจ้ากรรมกันมาตั้งแต่ชาติก่อน 7 เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติ โดยพระเอกดังก็ได้เปิดใจทั้งน้ำตาคลอเสียงสั่นว่า อยากหายป่วย เล่าต่อว่า จะขอขมาทีไรตอนลุกขึ้นยืนเลือดไหลจนงง อาจเพราะยังไม่ปลดปล่อย ยังไม่ถึงเวลา เหตุการณ์หลังเจอเจ้ากรรมนายเวรคนที่ 6 ที่ยังมีชีวิตอยู่ และทำพิธีอโหสิกรรมกันไปก่อนหน้านั้น ยอมรับว่าขนลุก พูดไม่ออกกับเรื่องราวที่เจอ

เมียเขาก็ร้อง เมียเมฆก็ร้อง อดีตชาติคนสมัยก่อน หลายอย่างในโลกนี้ที่เราไม่รู้เป็นเรื่องลี้ลับ ไม่รู้จริง ๆ ตนก็อยากรู้ว่าสิ่งที่ตนกำลังทำตอนนี้ของจริงหรือของปลอม แต่ยังไงก็อยากทำทุกวิถีทางให้ถึงที่สุด ส่วนเจ้ากรรมนายเวรคนที่ 7 คนสุดท้ายนั้นนับถือศาสนาอิสลาม ทำพิธีกรรมไม่ได้ คนละศาสนา เขาเคร่งมาก

ส่วนอาการในตอนนั้นก็ดีขึ้น หน้าตาสดใสกว่าตอนที่ยังไม่ไปขอขมากับทั้ง 7 คน ไม่มีอะไรติดค้างต่อกัน เมฆ เจ็บปวดทรมานมามาก อดทนมามาก จากนี้ไปขอให้เราอโหสิกรรมต่อกันและกัน ไม่ติดค้างกัน ขอให้ตนหายป่วยโดยเร็ว ขออย่าให้มีตุ่มโผล่เลยยิ่งดี ซึ่ง เมฆ ได้รักษาทุกวิถีทางมาแล้ว 5 ปี แต่ไม่ดีขึ้น การรักษาวิธีนี้ก็ไม่เสียหาย เลยอยากลองดู

ผิดสังเกตอยู่ 3 วันก่อนเข้าโรงพยาบาล

จนกระทั่งวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา บนช่องติ๊กต็อก winaikraibutr ของ เมฆ ได้มีการโพสต์คลิปที่เห็นว่าเจ้าตัวได้เข้าแอดมิทโรงพยาบาล โดยในคลิปจะเห็นว่า ต้องมีคนคอยลูบหัวให้ เมฆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งได้รับการชี้แจงว่า เพราะพี่เมฆคันศีรษะมาก ต้องมีคนคอยลูบให้ เจ้าตัวเล่าอาการว่า ผิดสังเกตอยู่ 3 วัน เข้าห้องน้ำแล้วเป็นลม ต้องหามกลับเข้ามาที่นอน ลองมาเช็กดูวันนี้ ปรากฏว่าขาดธาตุเหล็ก ขาดเลือด จาก 40 เหลือ 16 ขาดธาตุอาหารหลายตัวเลย ร่างกายเลยไม่ไหวแต่ไม่เกี่ยวกับโรคตุ่มน้ำพอง ขณะที่ เอ๋ ภรรยา อยู่ข้าง ๆ ไม่ห่าง

วินัย ไกรบุตร เสียชีวิต

จากนั้น เมฆ ได้ออกเดินทางไกลในช่วงเวลา 23.49 น. ของวันที่ 20 มีนาคม 2567 จากภาวะความดันตก ติดเชื้อในกระแสเลือด กระทั่งหัวใจหยุดเต้น นำมาซึ่งการเสียชีวิตในที่สุด ท่ามกลางความอาลัยจากเพื่อน ๆ พี่น้อง และแฟนคลับที่ติดตามมาโดยตลอด

ทางด้านของ เอ๋ อรชัญญาช์ ภรรยาของเมฆ ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่รับร่างของ เมฆ โดยเธอเล่าว่าสามีเข้าโรงพยาบาลล่าสุดวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา แต่ก่อนหน้าหน้านั้น คือ วันที่ 15 เมฆ หยุดหายใจไปแป๊ปนึง ช่วงที่ตนเองออกไปรับลูก ๆ หลังจากนั้นตนเองจึงรีบกลับบ้าน เมื่อกลับไปถึงน้องกระตุ้นให้ จึงฟื้นก่อน ซึ่งตอนแรกตนเองคิดว่า เมฆ อาจจะแค่ค้างไป แต่หลังจากวันนั้น เมฆ ก็แปลกไป สามีจะเรียกตนเองตลอดเวลา และบอกรักตนเองตลอดเวลา

เป็นแบบนี้อยู่ 2-3 วัน แล้วก็บอกว่า “เหนื่อยมากเลย” ซึ่งตนเองคิดว่า เมฆ อาจจะเหนื่อยจากแผล ซึ่งเข้าโรงพยาบาลครั้งล่าสุดก็ให้น้ำเกลือ เพราะคิดว่า เมฆ แค่เพลีย ต่อมาวันที่ 18 อยู่ ๆ ก็ เมฆ มีอาการเกร็ง ตนเองจึงเรียกฉุกเฉิน หลังจากวันนั้น ตนเองกับสามีก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย เมฆ ไม่มีสติอีกเลย

ตอนแรกแพทย์มีการประเมินว่ามีการติดเชื้อในกระแสเลือด เพราะอุณหภูมิร่างกาย 36 องศา ตลอดเวลา ความดันตก หัวใจเต้นช้าลง แล้วน้ำเริ่มท่วมปอด หลังจากที่ความดันตก ทำให้ไม่สามารถรีดน้ำออกจากปอดได้ ซึ่งเป็นภาวะที่อันตราย ซึ่งตนเองก็อยู่กับสามีทั้งวัน อยู่จนสามีเสียชีวิต

อาจารย์ไพศาล เปิดใจหลังเมฆ เดินทางไกล

ส่วนทางด้านของ อาจารย์ไพศาล แสนไชย ก็ได้เปิดใจหลังจากที่พระเอกดังสิ้นลมว่า ตนทราบมานานอยู่แล้ว ซึ่งกำหนดที่จะต้องเสียชีวิต จะอยู่ก่อนหน้านี้ก็คือในช่วงประมาณปลายเดือนธันวาที่ผ่านมา แต่ด้วยการแก้กรรม จึงต่อบุญให้มีอายุขัยเพิ่มขึ้นมาและมาเสียชีวิตในช่วงเมื่อคืน โดยได้เสียชีวิตอย่างสงบ และหมดกรรมที่ติดค้างไว้แล้ว

ในช่วงเมื่อคืนตนได้เข้าไปพบกับเมฆในนิมิต ประมาณช่วงตี 2 ตี 3 ซึ่งเมฆก็ได้พูดคุยกับตนว่าตอนนี้ “ผมสบายแล้วครับอาจารย์ ไม่เจ็บไม่ปวดแล้ว ผมหมดบุญแล้ว ผมอยู่นี้สบาย ถ้ารู้อย่างนี้ผมมาที่นี่ไปตั้งนานแล้วครับอาจารย์” และหลังจากนี้เท่าที่ตนดู ก็ต้องได้กลับมาเกิดใหม่ ซึ่งจะจะกลับมาเกิดเป็นลูกของลูกสาวของเขา และจะไม่เป็นโรคอะไรพวกนี้อีก เนื่องจากหมดกรรมเก่าแล้ว

และที่หลาย ๆ คนสงสัยว่าแก้กรรมแล้วทำไมถึงไม่หาย อาจารย์ไพศาล ได้กล่าวว่า ก็ถ้าหายหมดก็ไม่มีคนตายสิ โรงพยาบาลก็ยุบหมด ถึงเวลาก็ต้องตายกันทุกคน หมดกรรมไป ยุติกันชาตินี้ กรรมที่ว่าเป็นผิวหนังอะไร ไปอย่างสงบไม่มีโรคภัยไข้เจ็บอะไร ไม่มีการทรมานแต่อย่างใด