ผู้กำกับหนังนางนาก เสียดายสูญเสีย เมฆ วินัย เล่าความประทับใจที่ยังจำมาถึงวันนี้

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 22 มีนาคม 2567

อุ๋ย นนทรีย์ ผู้กำกับหนังนางนาก เสียดายสูญเสีย เมฆ วินัย เป็นคนที่ทุ่มเทและใส่ใจกับการทำงานมาก ๆ เล่าความประทับใจที่ยังจำมาถึงวันนี้

ท่ามกลางความอาลัยจากเพื่อน ๆ ในวงการบันเทิง ตลอดจนแฟนคลับที่ติดตามและให้กำลังใจมาโดยตลอด หลังจากที่พระเอกร้อยล้านคนแรกของไทย เมฆ-วินัย ไกรบุตร ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยวัยเพียง 54 ปี ซึ่งตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เมฆ ก็ได้ต่อสู้กับโรคโรคตุ่มน้ำพองมาหลายปี จนกระทั่งในวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา เกิดภาวะความดันตก ติดเชื้อในกระแสเลือด กระทั่งหัวใจหยุดเต้น นำมาซึ่งการเสียชีวิตในที่สุด

อุ๋ย นนทรีย์ ผู้กำกับหนังนางนาก เสียดายสูญเสีย เมฆ วินัย

ล่าสุด (21 มี.ค.) อุ๋ย นนทรีย์ นิมิบุตร ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง นางนาก ที่สร้างชื่อให้ เมฆ วินัย ไกรบุตร กลายเป็นพระเอกหนังร้อยล้านคนแรกของประเทศไทย เมื่อปี 2542 และหลังจากนั้นก็ได้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง ปืนใหญ่จอมสลัด เมื่อปี 2551

ซึ่ง อุ๋ย นนทรีย์ ก็ได้เปิดใจถึงการสูญเสียน้องชายสุดที่รักในครั้งนี้ว่า ทราบข่าวเมื่อช่วงเช้า ก็รู้สึกเสียใจมาก ๆ ที่น้องรักคนนึงได้จากไปในเวลาอันรวดเร็ว อุ๋ย บอกว่ารู้จักกับ เมฆ มาตั้งแต่ทำแคสติ้งหนังเรื่อง นางนาก ด้วยกัน เมื่อเกือบ 30 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นตนเองยืนกรานกับทางค่ายหนังว่า อยากให้ เมฆ เล่นหนังเรื่องนี้ คู่กับ ทราย เจริญปุระ ถ้าไม่ใช่สองคนนี้ ก็จะไม่ทำหนังเรื่องนี้ เพราะรู้สึกเชื่อในตัวเมฆมาก ๆ รู้สึกว่าเมฆเป็นคนที่มีความซื่ออยู่ในดวงตา และเขาสามารถทำให้ตนเองเชื่อได้ว่าเขาเป็นไอ้มากได้จริง ๆ

โดย อุ๋ย ยังได้ชื่นชมด้านการทำงานของ เมฆ วินัย ว่า เป็นคนที่ทุ่มเทและใส่ใจกับการทำงานมาก ๆ และเป็นคนมีวินัยสมชื่อ มีวินัยในการทำงานมาก ไม่เคยมาเลท มาตรงเวลาตลอด และมักจะกลับคนหลัง ๆ เสมอ เพื่อที่จะคอยถามว่าวันนี้เขาเล่นโอเคมั้ย พรุ่งนี้เราจะถ่ายอะไรกัน และพร้อมให้ความร่วมมือในทุกอย่างดีมาก ไม่ว่าจะให้ไปเพิ่มกล้ามมา ฉากที่คิดว่าเขาไม่กล้าเล่น เขาก็เล่นเองหมด พร้อมทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะอันตรายแค่ไหน และคิดว่าหนังประสบความสำเร็จได้ ก็มาจากความตั้งใจและความทุ่มเทของเขา จนทำให้เขากลายเป็นพระเอกร้อยล้านคนแรกของประเทศไทย

มีเรื่องที่ทำให้ตนเองประทับใจ เมฆ มาก ๆ อยู่เรื่องหนึ่ง คือ ตอนที่ตนเองทำหนังเรื่อง ปืนใหญ่จอมสลัด ก็ได้เชิญ เมฆ มาเล่นเป็นอีกาดำ ซึ่งเขาก็ยินดีมาก ๆ แม้จะต้องแต่งตัวนาน เขียนลาย เขียนรอยสักเต็มตัว และเป็นการทำงานที่ค่อนข้างยาก ต้องมีการไปเรียนดำน้ำ ใช้เวลาในการถ่ายทำประมาณ 1 ปี เมฆ มาทุกคิว อยู่ในหนังเกือบทั้งเรื่อง แต่พอถ่ายหนังเสร็จ มีงานเลี้ยงปิดกล้อง เมฆ ก็เดินมาบอกว่า หนังเรื่องนี้เขาไม่เอาสตางค์แม้แต่คิวเดียว เพราะอยากขอบคุณที่ พี่อุ๋ย ทำให้เขาเป็นเขาในวันนี้ ซึ่ง พี่อุ๋ย ก็บอกว่า ก็ต้องขอบคุณเขา เพราะว่าเมฆเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนังเรื่องนั้นประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน

ส่วนช่วงที่ เมฆ ป่วย อุ๋ย ก็บอกว่า ได้ติดตามถามไถ่อาการอยู่เรื่อย ๆ ว่าเป็นยังไงบ้าง ก็ให้กำลังใจอยู่เรื่อย ๆ โดยได้มีโอกาสเจอกันครั้งสุดท้ายในงานครบรอบ 20 ปี นางนาก เมื่อปี 2562 ซึ่งตอนนั้นอาการของเขาเหมือนดีขึ้น เขาก็ยังสามารถมาร่วมงานได้ แต่ตอนหลังก็ทราบข่าวว่าอาการทรุดลงไปอีก

อุ๋ย บอกว่าการสูญเสีย เมฆ ไป เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะคิดว่าเขายังสามารถทำงานได้อีกเยอะ เขาน่าจะทำงานในวงการบันเทิงต่อไปได้อีกเรื่อย ๆ ตอนที่รดน้ำศพ ก็ได้บอกกับน้องไปว่า ขอให้น้องไปสู่สุขคติ พักผ่อนอย่างสงบ และบอกว่าถ้ามีอะไรที่เราเคยล่วงเกินไปอะไรก็ตาม ก็ขอให้อโหสิกรรมต่อกัน และขอให้น้องหลับอย่างสบาย