เมื่อรู้ว่าเป็นเบาหวาน มีการรับมือหรือการดูแลตัวเองเมื่อเป็นเบาหวานอย่างไร? เช็ก 7 ข้อควรปฏิบัติที่นี่
เมื่อรู้ว่าเป็นเบาหวานมีการรับมือหรือการดูแลตัวเองเมื่อเป็นเบาหวานอย่างไร ซึ่งโรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังหากเป็นแล้วจะไม่มีวันรักษาหายรวมไปถึงเป็นโรคที่สืบจากกรรมพันธุ์จากรุ่นสู่รุ่นมักมีอาการที่ไม่รุนแรงหากเป็นในระยะแรกเริ่มแต่ในระยะเวลานานขึ้นอาจมีโรคต่าง ๆ แทรกซ้อนขึ้นมาส่งผลทำให้ผู้ป่วยบางคนมีอารมณ์แปรปรวน รู้สึกไม่สบายตัวและหงุดหงิดง่ายการดูแลตัวเองเมื่อเป็นเบาหวานควรทำอย่างไรสำหรับผู้ป่วยมือใหม่โดยเฉพาะเราจะพาไปหาคำตอบกัน
สิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานสามารถเผชิญหน้าและรับความจริงในสิ่งที่ตัวเองเป็นได้จำเป็นต้องมีคนที่คอยให้กำลังใจและพูดคำปลอบโยนที่ดีตลอดเวลาเพราะว่าผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานจะต้องมีการเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันเพื่อใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนเดิมหากว่าผู้ป่วยไม่เข้าใจหรือเกิดการต่อต้านไม่ไปหาแพทย์ตรงตามที่กำหนดรวมไปถึงการไม่เข้าร่วมรักษาโรคเบาหวานโดยตรงจะส่งผลเสียต่อร่างกายในด้านต่างๆได้อย่างรวดเร็วรวมไปถึงอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนขึ้นมาส่งผลอะไรจนถึงขั้นเสียชีวิตได้อย่างรวดเร็วได้
ข้อควรปฏิบัติ 7 ข้อในการดูแลตัวเองเมื่อเป็นเบาหวานมีอะไรบ้าง
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นเบาหวานเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานมือใหม่หรือทราบถึงผลการตรวจว่าควรมีแนวทางการปฏิบัติตัวอย่างไรให้สามารถใช้ชีวิตร่วมกับโรคนี้ได้อย่างมีความสุขและมีอายุที่ยาวนานขึ้น
1. ดูแลอารมณ์และสุขภาพจิตให้ดีอย่างต่อเนื่อง
การดูแลอารมณ์และสุขภาพจิตของผู้ป่วยเองให้ดีอย่างต่อเนื่องเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลตัวเองเมื่อเป็นเบาหวานที่สามารถสร้างขึ้นได้จากตัวเองภูมิคุ้มกันโดยส่วนใหญ่สามารถสร้างขึ้นจากระบบการทำงานของร่างกายหากมีการดูแลสุขภาพจิตและอารมณ์ให้ดีอยู่สม่ำเสมอลดความเครียดจะทำให้ระบบการทำงานของภูมิคุ้มกันทำงานได้ดียิ่งขึ้นและสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขได้เป็นอย่างดี
2. ควรออกกำลังกายเป็นประจำและสม่ำเสมอ
โรคเบาหวานสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยการออกกำลังกายจึงเป็นแนวทางที่ดีของการดูแลตัวเองเมื่อเป็นเบาหวานโดยใช้วิธีการเดินเร็วหรือวิ่งอย่างสม่ำเสมอครั้งละประมาณ 15-30 นาทีเป็นประจำ สัปดาห์แล้ว 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ซึ่งการออกกำลังกายหากมีการทำเป็นประจำเป็นวิธีการที่สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลที่อยู่ในเลือดได้เป็นอย่างดีนอกจากนี้ยังช่วยควบคุมไขมันส่วนเกินในส่วนต่างๆของร่างกายให้ดูดีแต่การออกกำลังกายไม่ควรหักโหมมากจนเกินไปหรือมีการออกกำลังกายที่ร่างกายของเรารับไหวด้วยเช่นกัน
3. มีการดูแลทำความสะอาดในส่วนต่างๆของร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นเบาหวานจุดสำคัญที่ควรดูแลมากเป็นพิเศษนั่นก็คือส่วนเท้าต้องมีการทำความสะอาดอยู่เป็นประจำมีการล้างเท้าและดูแลความสะอาดด้วยสบู่แบบอ่อนๆและน้ำธรรมดาที่มีความสะอาดแล้วเช็ดให้แห้งเพื่อป้องกันความอับชื้นทำให้เป็นกิจวัตรประจำวันและเป็นนิสัยเกิดขึ้นมาเนื่องจากบริเวณส่วนเท้าเป็นส่วนที่ต้องรับกับน้ำหนักและการเสียดสีในรูปแบบต่างๆมีความเสี่ยงต่อการเกิดแผลได้ง่ายเช่นเล็บขบแผลจากรองเท้ากัดและรอยช้ำชนิดต่างๆเป็นต้นเราจึงจำเป็นต้องมีการดูแลรักษาความสะอาดเป็นพิเศษและสังเกตความผิดปกติให้ดีอีกด้วย
4. การกินอาหารเป็นเรื่องสำคัญ
การดูแลตัวเองเมื่อเป็นเบาหวานสิ่งที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือการรับประทานอาหารให้ถูกต้องกับโรคหรือลดความเสี่ยงต่อการกำเริบของโลกหรือกระตุ้นอาการของโรคให้เกิดขึ้นมานั่นเองการกินอาหารถือว่าเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียวโดยเฉพาะการงดรับประทานอาหารประเภทแป้งและของหวานรวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดด้วยเช่นกัน
5. ควบคุมน้ำหนักอย่าปล่อยให้ตัวเองอ้วนเกินไป
การควบคุมน้ำหนักเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ป่วยที่มีสภาวะเบาหวานหรือโรคแทรกซ้อนมีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นเพราะว่าน้ำหนักมีผลต่อระบบต่างๆในร่างกายเช่นความดันโลหิต ระบบการหายใจ รับประทานอาหารอย่างถูกต้องเป็นต้นซึ่งสิ่งเหล่านี้มีความจำเป็นต่อการรักษาและการดูแลตัวเองเมื่อเป็นเบาหวานหากมีการควบคุมน้ำหนักจะสามารถลดสภาวะโรคแทรกซ้อนที่มีความเสี่ยงเกิดขึ้นกับเราในอนาคตได้
6. ควรไปรักษาตามใบนัดของแพทย์
มีการตรวจสุขภาพตามที่แพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอจนเกิดเป็นมาตรฐานและต้องปฏิบัติตามคำสั่งของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการรักษาที่ถูกวิธีรวมไปถึงสามารถปรับแผนการดูแลรักษาโรคเบาหวานได้อย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ด้วยเช่นกัน
7. กินยาให้ตรงเวลาหรือกินแดอินซูลินให้ตรงกับแผนการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
โดยทั่วไปแล้วผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานจะมีการดื้อยาหรือไม่ค่อยกินยาได้ตรงเวลาทำให้มีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นตามมาการกินยาหรือกินแด่อินซูลินเพื่อรักษาอาการเบาหวานอย่างสม่ำเสมอเป็นวิธีการดูแลตัวเองเมื่อเป็นเบาหวานได้อย่างดีเยี่ยมเพราะสามารถควบคุมน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดีแล้วยังช่วยให้ร่างกายปรับตัวและชะลอการกำเริบของโรคแทรกซ้อนได้เช่นกัน
แนวทางปฏิบัติทั้งหมด 7 ข้อนี้เป็นการดูแลตัวเองเมื่อเป็นเบาหวาน สามารถนำไปใช้งานและดูแลผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานโดยตรงได้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการรักษาสุขภาพเริ่มตั้งแต่การพักผ่อนให้เพียงพอกินอาหารให้มีประโยชน์และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอส่วนแนวทางปฏิบัติของผู้ดูแลควรผู้ต้องช่วยให้ผู้ป่วยลดอาการความเครียดต่าง ๆ ได้นอกจากนี้ควรหาวารสารหรือเอกสารแนวทางการรักษาสภาวะโรคเบาหวานเบื้องต้นหรือเมื่อมีอาการเจ็บป่วยเพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยสามารถรู้วิธีการรับมือกับโรคเบาหวานและสามารถช่วยตัวเองได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดเมนูสุขภาพ 5 อาหารไฟเบอร์สูง ล้างลำไส้ ทำงานได้ดีขึ้น
- ปัญหาของคนรักษาหุ่น!! ไขมันสะสมต้นขาเกิดจากอะไร แก้ไขยังไง ที่นี่มีคำตอบ!!
- 5 คุณประโยชน์จากการดื่มนมถั่วเหลืองประโยชน์ดี ๆ จากธรรมชาติ
