นายกฯ ปลื้ม แบงก์ชาติ ผุดมาตรการ “แก้หนี้ครัวเรือนยั่งยืน” ให้สินเชื่ออย่างเป็นธรรม ลดการกู้หนี้นอกระบบ เริ่มปี 67
วันที่ 3 สิงหาคม 2566 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หนี้ครัวเรือนและหนี้นอกระบบเป็นปัญหาสะสมในระบบเศรษฐกิจมายาวนานซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เล็งเห็นความสำคัญของปัญหาและได้ให้นโยบายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขโดยต่อเนื่อง
ทั้งการช่วยเหลือประชาชนทั้งที่เป็นโครงการระยะเร่งด่วนตามสถานการณ์เช่นในช่วงมีการแพร่ระบาดของโควิด19 และดำเนินมาตรการที่เป็นการแก้ไขเชิงโครงสร้างเพื่อกระตุ้นให้เกิดวินัยการทางเงินทั้งระบบ
แก้หนี้ครัวเรือนยั่งยืน ทั้งก่อน–ระหว่าง–หลังเป็นหนี้ เริ่มปี 67
โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญและติดตามการดำเนินการของหน่วยงานและคณะกรรมการชุดต่างๆ อย่างใกล้ชิด และได้รับรายงานว่า ขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ร่วมกับธนาคารพาณิชย์เอกชน ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร(นอนแบงก์) ในการดำเนินแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน
ซึ่งจะเป็นการยกมาตรฐานการให้สินเชื่อ โดยการดูแลตั้งแต่ก่อนเป็นหนี้ กำลังจะเป็นหนี้ ระหว่างเป็นหนี้ เมื่อหนี้มีปัญหา และเมื่อมีการขาย/ฟ้องหนี้ และหนี้นอกระบบให้มีโอกาสมากขึ้นที่จะเข้ามากู้ในระบบได้
แบ่งการดำเนินการเป็น 2 ส่วน คือ มาตรการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม ที่สถาบันการเงินต้องเริ่มดำเนินการตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 และ มาตการแก้หนี้เรื้อรัง เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เมษายน 2567
“นายกรัฐมนตรีชื่นชมความร่วมมือของ ธปท. และสถาบันการเงินทั้งรัฐและเอกชนที่กำลังสร้างวัฒนธรรมการให้สินเชื่อที่ดี เป็นรากฐานที่จะแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยั่งยืน ให้คนไทยมีหนี้ที่มีคุณภาพ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายที่รัฐบาลดำเนินการมาตลอดคือมุ่งสร้างวินัยการเงินให้เกิดขึ้นทั้งระบบ”น.ส.ไตรศุลี กล่าว
สร้างวินัยทางการเงินระยะยาว
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลดำเนินนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนแบบคู่ขนาน ทั้งการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนและระยะยาว ซึ่งระยะเร่งด่วนนั้นได้ขับเคลื่อนผ่านคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย
ดำเนินการใน 3 ด้านที่สำคัญ คือ
- ช่วยเหลือลูกหนี้ให้เข้าถึงกลไกการแก้ไขหนี้สิน
- ปรับปรุงกฎหมาย
- เพิ่มเติมแหล่งสินเชื่อที่เป็นธรรม
ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้มีการรายงานผลดำเนินงานให้ ครม. ทราบเป็นระยะเพื่อปรับปรุงแนวทางการทำงานที่เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์
ส่วนของการสร้างวินัยการเงินในระยะยาวสำหรับคนไทย รัฐบาลได้จัดให้มีแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงิน ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงแผ่นปี 2565 – 2570 ซึ่งมีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างทักษะในการบริหารจัดการทางการเงินของบุคคลในทุกช่วงวัย ทั้งในระดับครอบครัว ในสถานศึกษา และสำหรับประชาชนทั่วไป มีหลายหน่วยงานร่วมขับเคลื่อนแผน อาทิ กระทรวงการคลัง ธปท. สำนักงานคณะกรรการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษาฯ เป็นต้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แบงก์ชาติ แจ้ง 31 ก.ค. 66 ‘สถาบันการเงิน’ เปิดทำการตามปกติ
- แบงก์ชาติ ผุด ‘มาตรการแก้หนี้ครัวเรือน’ เริ่มปี 67 จ่ายหนี้มากกว่าขั้นต่ำ หนี้เรื้อรังต้องปิดจบใน 5 ปี
- ‘ผู้ว่าฯ แบงกชาติ’ ชี้ ตั้งรัฐบาลช้า เลื่อนจัดสรรงบปี 67 อีก 1 ไตรมาส เบิกจ่ายได้ต้นปีหน้า-กระทบความเชื่อมั่น