ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (30 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงลง หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ ขึ้นดอกเบี้ยอีก และทำให้นักลงทุนวิตกว่าเศรษฐกิจจะเผชิญกับภาวะถดถอย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 28,725.51 จุด ลดลง 500.10 จุด หรือ -1.71% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,585.62 จุด ลดลง 54.85 จุด หรือ -1.51% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 10,575.62 จุด ลดลง 161.89 จุด หรือ -1.51%
ดัชนีดาวโจนส์ และเอสแอนด์พี 500 ปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ส่วนแนสแด็ก ปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2563
ตลาดหุ้นสหรัฐถูกกดดัน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบรายปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% จากระดับ 4.7% ในเดือนกรกฎาคม
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนสิงหาคม และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% หลังจากทรงตัวในเดือนก่อนหน้านั้น
ส่วนดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.2% ในเดือนสิงหาคม เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 6.4% ในเดือนเดือนกรกฎาคม เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนสิงหาคม หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนกรกฎาคม
ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จากกระทรวงแรงงานสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังบริษัทจดทะเบียน อาทิ ไนกี้ และคาร์นิวัล ประกาศเตือนเกี่ยวกับผลกำไร ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเงินเฟ้อสูง โดยหุ้นไนกี้ และหุ้นคาร์นิวัลร่วงลง 12.8% และ 23.3% ตามลำดับ
หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลง โดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยหุ้นแอปเปิ้ล ไมโครซอฟท์ และอเมซอน ถ่วงตลาดลงมากที่สุด
บรรดานักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่ามีแนวโน้มลดลง
นักวิเคราะห์คาดว่า ผลประกอบการรวมในไตรมาส 3 ของบริษัทในดัชนีเอสแอนด์พี 500 จะขยายตัว 4.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยลดลงจากตัวเลขประมาณครั้งก่อนในช่วงเริ่มต้นไตรมาส 3 ที่ระดับ 11.1%
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘แบงก์ชาติญี่ปุ่น’ ไม่ขึ้นดอกเบี้ย ชี้ เศรษฐกิจเพิ่งฟื้นตัว เมิน ‘เงินเฟ้อ’ พุ่งสูง
- ‘พาวเวล’ ลั่นไม่ลดดอกเบี้ย จนกว่าคุมเงินเฟ้อได้ 2% หลัง ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามคาด
- ‘ฟิลิปปินส์’ ขึ้นดอกเบี้ย 0.5% รับมือ ‘เงินเฟ้อ’ พุ่ง คุกคามเศรษฐกิจโต