รัฐมนตรีแรงงานกัมพูชา พบปะกับแรงงานกัมพูชา ที่โรงงานแปรรูปไก่ ซีพีเอฟ มั่นใจองค์กรต้นแบบดูแลพนักงานได้มาตรฐานสากล หนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของ 2 ประเทศ
นายอิต ซอมเฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและฝึกอาชีพ กัมพูชา นายอูก ซอร์พวน เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย พร้อมคณะ เข้าเยี่ยมชมโรงงานแปรรูปเนื้อไก่นครราชสีมา ของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เพื่อพบปะพนักงานชาวกัมพูชา กว่า 2,000 คน เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานชาวกัมพูชา มีความเป็นอยู่ที่ดี และได้รับการปฏิบัติอย่างเสมอภาค และเท่าเทียม สอดคล้องกับกฎหมายแรงงานและข้อกำหนดมาตรฐานสากล
โดยมี นายชรินทร์ ทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้การต้อนรับ ร่วมกับนายศรกฤษณ์ วัตตศิริ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านบริหารทรัพยากรบุคคล ธุรกิจสัตว์บก และ นายปิโยรส ธรรมจารึก รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจไก่เนื้อ เป็ดเนื้อครบวงจร ซีพีเอฟ และพนักงานชาวกัมพูชา ณ โรงงานแปรรูปเนื้อไก่นครราชสีมา อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา
นายอิต ซอมเฮง กล่าวว่า การมาเยี่ยมชม และพบปะชาวกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทย เป็นภารกิจของรัฐบาลกัมพูชา ในการติดตามดูแลคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวกัมพูชาที่ทำงานในต่างประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่า ทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชน
รัฐบาลไทยและกัมพูชาให้ความสำคัญกับความร่วมมือด้านแรงงานอย่างจริงจัง ส่งผลให้ชาวกัมพูชามีอาชีพ และรายได้ที่มั่นคง มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศแบบ win-win และขอขอบคุณ ซีพีเอฟ รวมถึง ชาวจังหวัดนครราชสีมา ที่ช่วยกันดูแลแรงงานชาวกัมพูชาเหมือนญาติพี่น้อง
ทางด้านนายชรินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การพบปะพนักงานชาวกัมพูชา ในโรงงานซีพีเอฟ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานฯ และทูตกัมพูชา มีส่วนช่วยตอกย้ำว่า ชาวกัมพูชาที่มาทำงานในจังหวัดนครราชสีมา ได้รับการจัดจ้าง อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
จังหวัดนครราชสีมาได้ลงพื้นที่ และตรวจเยี่ยมการปฏิบัติต่อพนักงานและแรงงานของซีพีเอฟอยู่เป็นประจำ เพื่อส่งเสริม และสนับสนุนให้ภาคธุรกิจ ดูแลและปฏิบัติต่อพนักงานชาวกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในจังหวัดประมาณกว่า 15,000 คน สอดคล้องตามมาตรฐานแรงงาน
แรงงานทุกคนได้รับการคุ้มครอง ซึ่งช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับจังหวัดนครราชสีมาในฐานะเป็นบ้านหลังที่สองของพี่น้องชาวกัมพูชา และช่วยกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นขึ้น
ส่วนนายศรกฤษณ์ กล่าวว่า พนักงานชาวกัมพูชา เป็นกำลังสำคัญของซีพีเอฟ ในกระบวนการผลิตอาหารปลอดภัยได้มาตรฐานสากล โดยซีพีเอฟมีนโยบายจัดจ้างแรงงานต่างชาติทุกคน เป็นพนักงานของบริษัท
โรงงานแปรรูปเนื้อไก่นครราชสีมา มีพนักงานทั้งหมดประมาณ 8,ุ800 คน เป็นชาวกัมพูชาอยู่ 2,268 คน ทุกคนทำงานร่วมกับพนักงานคนไทย 6,600 คน โดย ซีพีเอฟ ได้บริหารจัดการแรงงานตามหลักการ 3P ประกอบด้วย Policy Practices และ Partnership บริหารจัดการแรงงานตามมาตรฐานแรงงานไทย (มรท.8001-2563) สอดคล้องกับข้อกำหนดด้านแรงงานต่าง ๆ ในระดับสากล
ตลอดจน ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐ สมาคม และภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันว่า บริษัทได้ปฏิบัติที่ดีต่อแรงงานทุกคน ทุกสัญชาติ และร่วมยกระดับมาตรฐานด้านแรงงานในอุตสาหกรรมอาหารของประเทศ
โรงงานแปรรูปเนื้อไก่นครราชสีมา จัดจ้าง และให้สวัสดิการแก่แรงงานกัมพูชาอย่างเท่าเทียม พร้อมจัดหอพัก และรถรับส่ง รวมทั้งการจ้างล่ามไว้คอยสื่อสาร และให้ความช่วยเหลือกับแรงงาน ทั้งในเรื่องการทำงาน และชีวิตความเป็นอยู่
บริษัทยังร่วมกับมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน หรือ มูลนิธิ LPN จัดทำช่องทางรับฟังเสียงพนักงานฮอทไลน์ Labour Voice by LPN ซึ่งเป็นองค์กรกรกลางที่พนักงานชาวกัมพูชาของซีพีเอฟสามารถพูดคุยขอคำปรึกษา และร้องเรียนด้วยภาษากัมพูชา
ทั้งยังจัดอบรมเรื่องสิทธิมนุษยชนให้พนักงานได้มีความรู้ และเข้าใจสิทธิแรงงาน ความปลอดภัยในการทำงาน ช่วยส่งเสริมบรรยากาศการทำงานที่มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน ยอมรับในความแตกต่าง
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 รวม 3 ปี ซีพีเอฟยังยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัดเพื่อให้พนักงานทุกคนมั่นใจว่าทำงานด้วยความปลอดภัยในทุกสถานการณ์ และทุ่มเททุกสรรพกำลังดูแล และช่วยเหลือให้พนักงานทุกคนรวมทั้งชาวกัมพูชาผ่านพ้นวิกฤติไปด้วยกัน
“ซีพีเอฟยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่รัฐบาลกัมพูชาให้ความใส่ใจกับคุณภาพชีวิตของแรงงานชาวกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทย และ การจัดกิจกรรมพบปะแรงงานกัมพูชาในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการช่วยตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาลและประชาชนชาวกัมพูชา และนานาประเทศเรื่องการจัดจ้างและดูแลแรงงานต่างชาติของบริษัทอีกด้วย”
นายเมียส มับ ชาวกัมพูชา เจ้าหน้าที่ฝึกอบรมพนักงานต่างชาติก่อนเข้าทำงาน ของซีพีเอฟ เข้ามาทำงานกับบริษัทตั้งแต่ 9 ปีที่แล้ว ในไลน์การผลิต ก่อนที่จะพัฒนาทักษะต่อเนื่องจนมาอยู่ในตำแหน่งดังกล่าว ระบุว่า รู้สึกยินดีและขอบคุณรัฐมนตรีแรงงาน และทูตกัมพูชา ที่ใส่ใจ และเสียสละเวลาเดินทางมาพบปะพูดคุยกับพี่น้องชาวกัมพูชาถึงที่ทำงาน ซึ่งช่วยให้ครอบครัว และเพื่อนที่กัมพูชาได้เห็นว่า คนที่มาทำงานที่ซีพีเอฟได้รับการปฏิบัติที่ดีและเท่าเทียม และมีความสุขมาก
ขณะที่ นายสกเฮือน ปริง กล่าวว่า มาทำงานอยู่ไลน์การผลิตที่ซีพีเอฟเป็นปีที่ 9 แล้ว ขอบคุณที่วันนี้ รัฐบาลกัมพูชามาเยี่ยม อยากฝากบอกครอบครัว และคนที่รู้จักที่กัมพูชาว่าสบายใจได้ บริษัทดูแลพี่น้องกัมพูชาอย่างดี โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 โรงงานช่วยเรื่องอาหาร ยา และของใช้จำเป็น รวมถึงให้ทุกคนได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ช่วยให้ทุกคนใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยโดยไม่กังวล
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘CPF’ ปลุกพลังพนักงาน บูรณาการโครงการเพื่อสังคม-ชุมชน เฟ้นรางวัล ‘CSR Pitching Contest’
- ‘CPF’ เดินหน้า ‘Greenfarm’ ฟาร์มรักษ์โลก ดันใช้ ‘ไบโอแก๊ส-โซลาร์ฟาร์ม’ เป็นพลังงานทดแทน
- ‘CPF’ ชูนวัตกรรมรับเทรนด์ ‘อาหารแห่งอนาคต’ ตอกย้ำสถานะ ‘Food Tech Company’ แถวหน้าโลก