Business

‘บ้านปู เน็กซ์’ ผนึก ‘เชิดชัยฯ-ดูราเพาเวอร์’ ตั้งโรงงานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในไทย

“บ้านปู เน็กซ์” ลงนามความร่วมมือ 2 พันธมิตรผู้นำทางธุรกิจ “เชิดชัยมอเตอร์เซลส์ -ดูราเพาเวอร์” สร้างโรงงานประกอบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในไทย ปักหมุดต้นปี 2566 เปิดไลน์ประกอบแบตเตอรี่ สำหรับ e-Bus ของเชิดชัยฯ และตลาด EV ทั่วเอเชียแปซิฟิก  ตั้งเป้าเพิ่มผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) ภายในปี 2569

นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของผู้นำธุรกิจจาก 3 อุตสาหกรรม ที่มุ่งมั่นขยายธุรกิจสอดรับไปกับทิศทาง และเทรนด์ของโลกอนาคต โดยเฉพาะเทรนด์การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยปี 2564 ตลาดรถโดยสารไฟฟ้า (e-Bus) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีมูลค่าประมาณ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ และคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 13.52% หรือมีมูลค่ากว่า 8.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ภายในปี 2570  ยังเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจแบตเตอรี่  ถือเป็นหัวใจสำคัญของยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท การจัดตั้งโรงงานแห่งนี้จึงเป็นกุญแจสำคัญ ที่จะช่วยสนับสนุนแนวทางของภาครัฐที่ต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถ EV

โดยโรงงานนี้ตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา ใช้ประกอบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนจากดูราเพาเวอร์ ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพและมาตรฐานระดับโลก มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยสูง คาดว่าจะเปิดดำเนินการในช่วงต้นปี 2566 โดยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ออกแบบมานี้ สามารถรองรับการชาร์จที่รวดเร็วและกักเก็บพลังงานสูง เพื่อเพิ่มระยะการใช้งาน e-Bus ของเชิดชัยฯ และกลุ่มลูกค้าในประเทศไทยที่ต้องการใช้แบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท ตั้งเป้าจะขยายกำลังการผลิตสู่ 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ภายในปี 2569 เพื่อบุกตลาดในเอเชียแปซิฟิก

thumbnail Banpu NEXT x DP x CC MOU Signing Ceremony Battery Assembly Plant 2 1

นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด กล่าวว่า บ้านปู เน็กซ์ มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจสู่อนาคตพลังงานที่ยั่งยืน ตามกลยุทธ์ Greener & Smarter ของบ้านปู บริษัทแม่ การผนึกความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งระบบนิเวศทางธุรกิจ และสามารถต่อยอดขยายพอร์ตฟอลิโอให้กับ 3 กลุ่มธุรกิจของบ้านปู เน็กซ์ ทั้งธุรกิจแบตเตอรี่ ธุรกิจอี-โมบิลิตี้ และธุรกิจพลังงานฉลาด อาทิ โซลูชันฉลาดผลิต หรือระบบโซลาร์ เป็นต้น โดยเรามีบทบาทในการศึกษาตลาด และความเป็นไปได้ในการนำแบตเตอรี่ ไปใช้กับโซลูชันพลังงานฉลาดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มการสัญจรแบบครบวงจร หรือ Mobility as a Services (MaaS) สำหรับรถบัส และระบบบริหารจัดการยานพาหนะไฟฟ้า (EV Fleet Management) รวมไปถึงการนำแบตเตอรี่ไปใช้กับตลาดอื่นๆ ในอนาคต เช่น ระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ร่วมกับระบบโซลาร์ สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงขยายธุรกิจแบตเตอรี่ในต่างประเทศ

thumbnail Mr. Sinon Vongkusolkit Chief Executive Officer of Banpu NEXT

ดร.อัสนี เชิดชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชิดชัยมอเตอร์เซลส์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทเห็นแนวโน้มของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่แพงขึ้น และเมกะเทรนด์ด้านความยั่งยืน และสิ่งแวดล้อม เราจึงมองหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อย่างบ้านปู เน็กซ์ และดูราเพาเวอร์ เพื่อรุกตลาดรถบัสไฟฟ้า (e-Bus) เพื่อช่วยสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้ธุรกิจ และขยายฐานลูกค้าสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ที่หลากหลาย

โดยเชิดชัยฯ เป็นผู้ดูแลด้านการจัดการทั้งหมดของโรงงานแห่งนี้ โดยจะนำความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการประกอบรถบัส และประสบการณ์อันยาวนานกว่า 64 ปี นำแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน  มาใช้ประกอบรถบัสไฟฟ้าของบริษัท และรถบัสไฟฟ้าสำหรับลูกค้าของ เชิดชัยฯ ทั้งหน่วยงานราชการ ธุรกิจรถทัวร์ เป็นต้น รวมถึงดูแลบริการหลังการขาย และติดตั้งสถานีชาร์จสำหรับรถบัสในอนาคต

thumbnail Dr. Assanee Cherdchai

มร.เคลวิน ลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ดูราเพาเวอร์ กล่าวว่า  ดูราเพาเวอร์ มีสำนักงานใหญ่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบ การผลิต และการติดตั้งระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์การเดินเรือ และพลังงานหมุนเวียน ตั้งแต่ปี 2552 บริษัทเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเซลล์แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มุ่งให้ความสำคัญด้านการวิจัยและพัฒนาวัสดุสำหรับแบตเตอรี่ การผลิตเซลล์แบตเตอรี่ รวมถึงการรวมระบบเข้าด้วยกัน ปัจจุบันมีฐานลูกค้าครอบคลุมทั้งประเทศจีน ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก

thumbnail Mr. Kelvin Lim

โดยการร่วมมือครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจ เพื่อส่งมอบระบบแบตเตอรี่คุณภาพสูงไปยังลูกค้าทั่วโลก โดยเราเชื่อว่า การร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ บ้านปู เน็กซ์ และเชิดชัยมอเตอร์เซลส์จะทำให้บริษัทสามารถเจาะตลาด และขยายฐานลูกค้าในประเทศไทยและทั่วภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ดูราเพาเวอร์ จะเป็นผู้จัดหาเซลล์แบตเตอรี่ ชิ้นส่วน และส่วนประกอบที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) และใบอนุญาตประกอบแบตเตอรี่สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ระบบกักเก็บพลังงาน (ESS) สำหรับเรือทุกประเภท (Marine Applications) รถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถสามล้อ รถบัส รถบรรทุก และยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่เพื่อการพาณิชย์

ทั้งนี้ ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและความพร้อมด้านการผลิตของบริษัท ทำให้แบตเตอรี่ที่ประกอบจากโรงงานแห่งนี้ กักเก็บพลังงานสูง จ่ายไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มระยะการขับขี่ รวมถึงออกแบบให้มีการชาร์จที่รวดเร็ว น้ำหนักเบา และมีมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูง

“การร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งพลังที่จะช่วยสนับสนุน และสอดรับกับนโยบายการผลิต และการใช้ยานยนต์ไร้มลพิษของภาครัฐ (Zero Emission Vehicle: ZEV) ที่มุ่งเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ พร้อมช่วยขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” นายสินนท์ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight