ปตท. ผนึก WHAUP – Sertis และ PEA ปลดล็อกซื้อขายไฟฟ้าเสรี สำหรับภาคอุตสาหกรรมครั้งแรกในไทย ผ่าน Platform การซื้อขายไฟฟ้า “RENEX” จ่อประเดิมลูกค้า 23 ราย หนุนพอร์ตพลังงาน
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บมจ. ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ บริษัท เซอร์ทิส จำกัด และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พัฒนาระบบ Peer-to-Peer Energy Trading Platform ผ่านเทคโนโลยี Blockchain การซื้อขายไฟฟ้าครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้ชื่อว่า “RENEX” เพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัยในการทำธุรกรรม และอำนวยความสะดวกการซื้อขายพลังงาน ให้กับผู้ผลิตไฟฟ้ารายย่อย กับผู้ใช้พลังงาน ประเดิม 23 รายแรก ในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ เข้าร่วมโครงการ
ดร.นิพนธ์ บุญเดชานันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เปิดเผยว่า จากความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และการพัฒนานวัตถกรรมด้านพลังงาน บริษัทฯ ได้เดินหน้าลงทุนในธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ ควบคู่กับการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เช่น การพัฒนาแพลตฟอร์มพลังงานอัจฉริยะ หรือ Smart Energy เพื่อซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดในกลุ่มลูกค้าภายในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ จึงนำมาสู่การพัฒนาระบบการซื้อขายไฟฟ้าแบบ Peer-to-Peer Energy Trading โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ERC Sandbox หรือ โครงการทดลองด้านนวัตกรรมพลังงานของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน
จากความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ และพันธมิตรชั้นนำด้านพลังงานและด้านเทคโนโลยี เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถประมูลซื้อหรือขายไฟฟ้าจากระบบพลังงานแสงอาทิตย์ระหว่างกันเองได้อย่างเสรีผ่านระบบสายส่งของการไฟฟ้า โดยปัจจุบันได้เริ่มการทดสอบการซื้อขายไฟฟ้า และมีผู้ประกอบการชั้นนำในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ เข้าร่วมโครงการ RENEX นี้ จำนวนมากถึง 23 บริษัท ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการให้บริการซื้อขายเชิงพาณิชย์ หลังจากภาครัฐอนุมัติเรียบร้อยแล้ว
นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ เป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในกลุ่มธุรกิจพลังงานแห่งอนาคตที่เป็นเป้าหมายสำคัญของ ปตท. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการพลังงาน และยกระดับนวัตกรรมพลังงานยั่งยืนของประเทศ ตามกรอบวิสัยทัศน์ “Powering Life with Future Energy and Beyond ขับเคลื่อนทุกชีวิต ด้วยพลังแห่งอนาคต” การพัฒนาระบบบริหารจัดการพลังงาน ทั้งในส่วนการนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาช่วยด้านการซื้อขายพลังงาน ตลอดจนนำเสนอนวัตกรรมด้านพลังงานเพื่อรองรับความต้องการใช้เชื้อเพลิงรูปแบบใหม่
ทั้งหมดนี้เพื่อรองรับการเติบโตของพลังงานหมุนเวียนในอนาคต และสร้างความเชื่อมโยงระหว่างกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานพลังงานหมุนเวียนอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนยกระดับสินค้าบริการที่มีคุณภาพระดับสากล เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมและผู้รับบริการได้อย่างครบวงจร ควบคู่กับการขับเคลื่อนประเทศสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ความร่วมมือกับพันธมิตรในครั้งนี้ จึงเป็นกำลังสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศด้านนวัตกรรมพลังงานของประเทศให้มีความพร้อมและสมบูรณ์ยิ่งขึ้นสู่การพัฒนาต่อยอดให้เกิดความยั่งยืนในการผลิตพลังงานในอนาคตต่อไป
นายธัชกรณ์ วชิรมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท เซอร์ทิส จำกัด กล่าวว่า ในฐานะที่เซอร์ทิสเป็นบริษัทให้คําปรึกษาและพัฒนาด้านข้อมูล เทคโนโลยี และนวัตกรรมดิจิทัลโซลูชั่น จึงมีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งในการเดินหน้าพัฒนาโครงการ ระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะด้วยดิจิทัล หรือ Renewable Exchange Energy Platform (RENEX) เป็นการนำเทคโนโลยีบล็อกเชน (blockchain) มาใช้เป็นพื้นฐานของแพลตฟอร์มการซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ มุ่งหวังที่จะสร้างประโยชน์ให้กับทุกฝ่ายที่ใช้แพลตฟอร์ม ทั้งในส่วนของการใช้งาน ผู้ซื้อพลังงาน (buyer) และผู้ขายพลังงาน (seller) จะสามารถทำการซื้อ-ขายพลังงานแสงอาทิตย์ในราคา และปริมาณที่ต้องการบนแพลตฟอร์มที่มีความเสถียรปลอดภัย
ผ่านระบบการจับคู่และประมูลราคาที่คิดค้นร่วมกันกับ ปตท. จนได้รับการรับรองด้วยอนุสิทธิบัตร “วิธีการซื้อขายไฟฟ้าโดยมีโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมต่อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย หรือ Smart Energy Platform” จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ และในส่วนของเซอร์ทิสเอง ในฐานะผู้ดูแลระบบ (platform operator) เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบให้มีความปลอดภัย น่าเชื่อถือและตรวจสอบข้อมูลได้ และในอนาคตเราจะนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ ร่วมกับเทคโนโลยีอื่น ๆ มาใช้ในการพัฒนาระบบให้ตอบโจทย์ต่อรูปแบบการใช้งานและความต้องการของผู้ใช้งานให้เหมาะสมและดียิ่งขึ้น
“โครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการใช้ศักยภาพของเทคโนโลยี ประกอบกับความสามารถของบุคลากรในการพัฒนาแพลตฟอร์มที่อำนวยความสะดวกและสนับสนุนการดำเนินงานของอุตสาหกรรมการซื้อขายพลังงานสะอาด ผมเชื่อว่าความสำเร็จนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้ารายย่อยได้เติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคงทั้งในประเทศและระดับภูมิภาคต่อไปในอนาคต” นายธัชกรณ์ กล่าวเสริม
การซื้อขายไฟฟ้าอย่างเสรีด้วยเทคโนโลยี Blockchain นี้ นับว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับภาคอุตสาหกรรม แต่วันนี้กำลังจะเกิดขึ้นได้จริงแล้วในประเทศไทย ที่นิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอเป็นแห่งแรก โดยจะมีผู้ประกอบการกลุ่มแรกที่เข้าร่วมเป็น Clean Energy Trader จำนวน 23 บริษัท โครงการนี้เมื่อดำเนินการเป็นผลสำเร็จ เป็นการเลื่อนระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานของไทย ช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานสำหรับภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด ส่งเสริมนวัตกรรมด้านพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ปตท. ก้าวสู่ ผู้นำยานยนต์พลังงานแห่งอนาคต หนุน ARUN PLUS ขับเคลื่อนไทยสู่สังคม EV
- ‘End-To-End Mobile@1745’ รับผู้ป่วยโควิดถึงบ้านต่อยอด ‘โครงการลมหายใจเดียวกัน’
- กลุ่ม ปต ท. เดินหน้า ‘ลมหายใจเดียวกัน’ จนกว่าไทยก้าวพ้นวิกฤติโควิด-19