กระทรวงอุตสาหกรรม ยันก๊าซและถังออกซิเจนมีเพียงพอ ทั้งทางการแพทย์และอุตสาหกรรม แนะประชาชนระมัดระวังการใช้ที่บ้าน
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์และรับทราบถึงข้อกังวลของประชาชน ถึงความเพียงพอของการผลิตก๊าซออกซิเจนทางการแพทย์ จึงสั่งการให้ตรวจสอบและประเมินภาพรวมความต้องการ (Demand) และกำลังการผลิต (Supply) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม เชิญผู้ประกอบการรายใหญ่ของประเทศหารือด้านกำลังการผลิต เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จัดประชุมประเมินความต้องการตั้งแต่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา
โดยกลุ่มผู้ผลิตก๊าซออกซิเจนเอกชนทั้ง 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มก๊าซอุตสาหกรรม จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมก๊าซอุตสาหกรรมสยาม โรงงานผู้บรรจุก๊าซ และผู้ผลิตภาชนะบรรจุก๊าซ ยืนยันว่าศักยภาพการผลิตของโรงงาน ยังสามารถรองรับความต้องการของประชาชนได้อย่างแน่นอน
นายอนุชา กล่าวว่ากระทรวงอุตสาหกรรม ยังรายงานภาพรวมกำลังการผลิตทั้งประเทศอยู่ที่ 1,860 ตันต่อวัน จาก 15 โรงงาน ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สระบุรี ชลบุรี ระยอง สงขลา ลำพูน และเชียงใหม่ และปลายเดือนสิงหาคมนี้จะมีเพิ่มอีก 1 แห่งที่จังหวัดระยอง โดยจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 150 ตันต่อวัน
หากกรณีฉุกเฉินยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตออกซิเจนได้ถึง 2,200 ตันต่อวัน ขณะที่ปริมาณการใช้ก๊าซออกซิเจนทั้งทางการแพทย์และอุตสาหกรรม ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1,260 ตันต่อวัน แบ่งเป็นปริมาณความต้องการออกซิเจนทางการแพทย์ ประมาณ 400-600 ตันต่อวัน และความต้องการก๊าซออกซิเจนในภาคอุตสาหกรรม ประมาณ 660 ตันต่อวัน
นายอนุชา กล่าวว่า ส่วนกรณีประชาชนบางส่วนที่จัดหาและเก็บท่อก๊าซออกซิเจนไว้ใช้ที่บ้าน ขอให้จัดเก็บอย่างระมัดระวัง เนื่องจากท่อก๊าซออกซิเจนเป็นท่อที่มีความดันสูง หากจัดเก็บหรือใช้งานอย่างผิดวิธีอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ กระทรวงสาธารณสุขยังให้คำแนะนำไว้ อาทิ ขณะเคลื่อนย้ายท่อก๊าซออกซิเจน ต้องทำด้วยความระมัดระวัง คือไม่ให้กระเทือน กระแทก หรือโยนท่อ ห้ามใช้สารหล่อลื่น น้ำมันหรือสารติดไฟกับอุปกรณ์ที่ใช้งานกับออกซิเจนเป็นอันขาด
การติดตั้งชุดอุปกรณ์ต่างๆ เข้ากับท่อบรรจุก๊าซออกซิเจน ต้องขันยึดให้แน่น และสถานที่จัดเก็บต้องเป็นที่แห้ง มีการถ่ายเทของอากาศได้ดีและมีอุณหภูมิสูงสุดไม่เกิน 50 องศาเซลเซียส และห้ามเก็บท่อบรรจุก๊าซออกซิเจนไว้รวมกับวัสดุ หรือก๊าซอื่นๆ ที่ติดไฟได้ง่าย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- น่าเจ็บใจ! ‘หมอนิธิพัฒน์’ เผยแห่ตุน ‘ถังออกซิเจน’ จนขาดตลาด กระทบตั้ง ‘ศูนย์พักคอย’
- กทม.แย่แล้ว! วิกฤติเตียงโควิด ผู้ป่วยล้น 3 เท่า เจอปัญหาลอบส่งออกถังออกซิเจน
- กูรูเปิดเบื้องลึก ทำไม ‘ผู้ป่วยโควิด’ บางกลุ่ม ถึงหาเตียงง่าย!