วัคซีนโควิดล็อตแรก 2 ล้านโดส จากซิโนแวค ถึงไทย 24 ก.พ.นี้ องค์การเภสัชกรรม วางใจ “ดีเคเอสเอช” รับหน้าที่ เก็บ กระจายให้ ไม่คิดค่าใช้จ่าย
องค์การเภสัชกรรม (GPO) ร่วมมือกับบริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด จัดเก็บ บรรจุ และกระจาย วัคซีนโควิด-19 ล็อตแรก ของประเทศไทย กระจายให้โรงพยาบาลตามแผนการฉีด ภายใต้ระบบคุณภาพมาตรฐานที่ดี ประชาชนกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงวัคซีนอย่างปลอดภัย
นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีลงนาม บันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วย การจัดเก็บ จัดบรรจุ และกระจายวัคซีนโควิด-19 ระหว่าง องค์การเภสัชกรรม และบริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) โดย ดีเคเอสเอช จะเป็นผู้จัดเก็บ บรรจุ และกระจาย วัคซีนโควิดล็อตแรก จำนวน 2 โดส โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ เป็นไปตามที่ คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบให้จัดหาวัคซีนเร่งด่วน จำนวน 2 ล้านโดส รองรับระบาดโรคโควิด 19 ระลอกใหม่ เพิ่มจากแผนจัดหาเดิม ที่กรมควบคุมโรค สั่งซื้อจากบริษัท แอสตร้าเซนเนกา โดยเจรจากับบริษัท Sinovac Biotech Limited People’s Republic of China ซึ่งเป็นบริษัทที่สามารถส่งวัคซีนได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2564
พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้ องค์การเภสัชกรรม เป็นผู้ดำเนินการ นำเข้าและขึ้นทะเบียนยา กรมควบคุมโรค เป็นผู้จัดซื้อ และกระจายผ่าน องค์การเภสัชกรรม ไปสู่ประชาชนต่อไป โดย ประชาชน 1 คนจะได้รับการฉีดวัคซีน จำนวน 2 โดส รวมทั้งจะได้รับวัคซีนของ บริษัท แอสตร้า เซนเนกา (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 26 ล้านโดส ในเดือนมิถุนายน 2564
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้อนุมัติวัคซีนเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดส รวมวัคซีนที่จะฉีดให้คนไทยคือ 63 ล้านโดส ซึ่งครอบคลุมได้อย่างน้อย ครึ่งหนึ่งของคนไทย
ด้าน นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า วัคซีนโควิด 19 ที่ องค์การเภสัชกรรม สั่งซื้อ จากบริษัท ซิโนแวค ไลฟ์ไซเอน ประเทศจีน จำนวน 2 ล้านโดส จะแบ่งการส่งมอบเป็น 3 งวด ดังนี้
- งวดแรก จำนวน 200,000 โดส ซึ่งจะมาถึงประเทศไทยในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้
- งวดที่ 2 จำนวน 800,000 โดส ส่งมอบในเดือนมีนาคม
- งวดที่ 3 จำนวน 1 ล้านโดส ส่งมอบในเดือนเมษายน 2564
สำหรับวัคซีนทั้งหมด 2 ล้านโดสนี้ องค์การเภสัชกรรม ได้ร่วมมือกับ บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บ บรรจุ ภายในห้องจัดเก็บยาเย็น และกระจายภายใต้มาตรฐานสากล ไปยังโรงพยาบาล ตามแผนการฉีดให้กับประชาชนที่กำหนดไว้
ที่สำคัญคือ บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด ได้ให้การสนับสนุนแก่รัฐบาลไทย ในการดำเนินงานด้านการกระจายวัคซีน ป้องกันโควิด-19 จำนวน 2 ล้านโดสนี้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
“วัคซีนจำนวน 200,000 โดสแรกจากจีนจะมาถึงไทยในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อดำเนินพิธีการศุลกากร และเจ้าหน้าที่อย.ตรวจแล้ว จะขนส่งไปยังคลังสำรองวัคซีนโควิด-19 ที่ศูนย์กระจายสินค้าของบริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) สำหรับเตรียมการจัดส่งกระจายต่อไป”นายแพทย์วิฑูรย์ กล่าว
นายจอห์น แคลร์ รองประธานฝ่ายบริหาร หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ประเทศไทยและอินโดจีน (เมียนมาร์ กัมพูชา ลาว) บริษัท ดีเคเอสเอช กล่าวว่า ความสัมพันธ์อันยืนยาว ระหว่างดีเคเอสเอช และองค์กรชั้นนำด้านสุขภาพในประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงความไว้วางใจ ของหน่วยงานด้านสาธารณสุข ที่มีต่อบริษัทในด้านการกระจายวัคซีนให้แก่คนไทยอย่างต่อเนื่องตลอดมา
ที่ผ่านมา ดีเคเอสเอช ได้ร่วมมือกับองค์การเภสัชกรรม ในหลาย ๆ โครงการมากว่า10 ปี บริษัทจึงมีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมสนับสนุนประเทศไทยอีกครั้ง ในการขนส่งและกระจายวัคซีนโควิด-19 และถือว่าได้รับเกียรติ และความไว้วางใจ จากองค์การเภสัชกรรม อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือพิสูจน์ความสามารถ ความเชี่ยวชาญและประสิทธิภาพของบริษัทอีกด้วย
“บริษัทพร้อมจะสนับสนุนการดำเนินงานด้านการกระจายวัคซีนป้องกันโควิด-19 จำนวน 2 ล้านโดสนี้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ภายใต้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และประสบการณ์ด้านการจัดเก็บ จัดบรรจุ และขนส่งผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ที่ได้คุณภาพ และมีการรักษามาตรฐานสูงสุดตลอดการขนส่ง”นายแคลร์ กล่าว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘การบินไทย’ พร้อมเหินฟ้าขน ‘วัคซีนโควิด-19 ล็อตแรก’ ส่งถึงสุวรรณภูมิ 24 ก.พ
- ‘หมอยง’ ตอบชัด วัคซีนโควิด-19 ฉีดในคนท้อง ได้หรือไม่ได้
- สธ. เตือนกลุ่มเสี่ยงสูง กักตัวตามกำหนด รอผลตรวจโควิดซ้ำ