ผู้ใช้ทวิตเตอร์ ต้องยืนยันตัวตนใหม่ ทวิตเตอร์ เตรียมเปิดใช้ระบบยืนยันตัวตนใหม่ ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2564 นี้ ก่อนถูกลบออกจากระบบยืนยันตัวตน
รายงานข่าวจาก ทวิตเตอร์ แจ้งว่า ทวิตเตอร์จะเริ่มใช้ นโยบายการยืนยันตัวตนใหม่ บนทวิตเตอร์ ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2564 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำการลบเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้า ออกจากบัญชีที่ไม่ได้มีการใช้งาน และบัญชีที่ไม่สมบูรณ์โดยอัตโนมัติ ดังนั้น ผู้ใช้ทวิตเตอร์ จะต้องทำการยืนยันตัวตนใหม่ เพื่อไม่ให้ถูกลบจากระบบยืนยันตัวตน
สำหรับนโนบายใหม่ดังกล่าว จะมีการกำหนดว่า บัญชีที่มีความสมบูรณ์ จะต้องมีหนึ่งในข้อกำหนดดังต่อไปนี้
- จะต้องมีการยืนยันอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์อย่างใดอย่างหนึ่ง
- มีรูปภาพโปรไฟล์
- แสดงชื่อผู้ใช้งาน
ทั้งนี้ หากบัญชีผู้ใช้ทวิตเตอร์ มีความเสี่ยงที่จะสูญเสีย เครื่องหมายยืนยันตัวตน จะได้รับแจ้งทางอีเมลอัตโนมัติและมีการแจ้งเตือน จากในแอปการใช้งานของทวิตเตอร์ ว่า หากผู้ใช้งาน ไม่ต้องการให้ถูกลบเครื่องหมายติ๊กถูกสีฟ้า ออกจากบัญชี จะต้องเข้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
นอกจากนี้ หากปฏิบัติตามคำแนะนำต่าง ๆ ก่อนวันที่ 20 มกราคม 2564 บัญชีจะไม่โดนลบเครื่องหมายยืนยันตัวตน
ภายใต้นโยบายใหม่นี้ ทวิตเตอร์ จะทำการลบเครื่องหมายยืนยันตัวตน จากบัญชีที่พบว่า มีการละเมิดกฎของทวิตเตอร์อย่างรุนแรง หรือมีการละเมิดกฎซ้ำ ๆ โดยจะมีการพิจารณาบัญชีเหล่านั้น ตามแต่ละกรณี รวมทั้งจะมีการปรับปรุงการใช้งาน ระหว่างการบังคับใช้นโยบายการยืนยันตัวตนในปีหน้า
วิธีการสมัคร เพื่อขอยืนยันตัวตนในปี 2564
สำหรับการยืนยันตัวตนครั้งใหม่ จะทำการผ่านการใช้ระบบใหม่ ที่สามารถทำได้เอง ผ่านแอปพลิเคชั่น ซึ่งจะอยู่ในหน้าการตั้งค่าบัญชี ทั้งบนเว็บไซต์ และในแอปพลิเคชั่นทวิตเตอร์ โดยขั้นตอน จะมีการถามผู้สมัคร ให้เลือกหมวดหมู่ในการยืนยันสถานะ และจะมีการตอบรับผ่านทางลิงก์ และอาจจะต้องใช้เอกสารอื่น ๆ ประกอบ
ในขั้นตอนของการพิจารณานั้น จะใช้ทั้งระบบตรวจสอบอัตโนมัติ และมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่า ทวิตเตอร์ กำลังตรวจสอบผู้ที่ยื่นเรื่องเข้ามาได้อย่างละเอียด และดำเนินการอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ทวิตเตอร์ยังจะให้ทุกคนสามารถเลือกได้ว่า จะแบ่งปันข้อมูลส่วนตัว หลังจากยื่นเรื่องสมัครยืนยันตัวตนแล้วหรือไม่ เพื่อที่ว่าจะได้สามารถวัด และปรับปรุงระบบการตรวจสอบของเรา ให้มีความเท่าเทียมกันมากยิ่งขึ้น โดยทางทวิตเตอร์ จะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับขั้นตอนการสมัครเร็ว ๆ นี้
ขณะเดียวกัน ทวิตเตอร์ ยังเตรียมดำเนินการออกแบบวิธี ในการแบ่งประเภท ของบัญชีใหม่ ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย อาทิ
- บัญชีที่เป็นอัตโนมัติ
บัญชีที่มีการโพสต์ข้อความอัตโนมัติ หรือที่เรียกกันว่า “บอท” สามารถช่วยในเรื่องการให้บริการได้เป็นอย่างมาก เมื่อต้องแชร์ข้อความ จำพวกการเตือนภัยแผ่นดินไหว หรือการแจ้งเตือน ถึงวิธีในการดูแลตัวเอง ซึ่งบางครั้งอาจสร้างความสับสนให้กับหลาย ๆ คนได้ หากไม่มีการระบุให้ชัดเจนว่า บัญชีนั้นเป็นบอท
ดังนั้นในปี 2564 ทวิตเตอร์ จึงวางแผนที่จะแบ่งประเภทบัญชีที่เป็นบอท ออกจากบัญชีที่มีผู้ใช้งานเป็นมนุษย์จริง ๆ ให้ชัดเจน เพื่อทุกคนจะได้ทราบว่า บัญชีไหนเป็นบอทบ้าง
- บัญชีเพื่อการระลึกถึง
ทวิตเตอร์ทราบว่า บัญชีผู้ใช้งานของผู้ที่จากไป มีความสำคัญกับผู้ที่ยังอยู่อย่างไร จึงกำลังปรึกษากันว่า ควรรักษาบัญชีประเภทนี้ไว้อย่างไร โดยในปี 2564 นี้ ทวิตเตอร์วางแผนที่จะสร้างประเภทของบัญชีใหม่ ๆ สำหรับบัญชีเพื่อการระลึกถึง ซึ่งในนโยบายใหม่ จะมีการอัปเดตถึงรายละเอียดของบัญชีประเภทนี้ และขั้นตอนการสมัครเพื่อขอให้บัญชีนั้น เป็นบัญชีเพื่อการระลึกถึงได้อย่างไร
ก่อนหน้านี้ ทวิตเตอร์ ได้ประกาศแผนงาน นโยบายของการยืนยันตัวตนใหม่บนทวิตเตอร์ และได้รับการตอบรับกว่า 22,000 แบบสอบถาม จากผู้คนบนทวิตเตอร์ และได้เรียนรู้ เพื่อกำหนดวิธีการปรับปรุงนโยบายดังกล่าว จึงนำมาสู่การประกาศใช้นโยบายการยืนยันตัวตนใหม่ ดังกล่าว
ฟีดแบ็ก ที่ได้จากแบบสอบถาม ที่ช่วยกำหนดนโยบายของทวิตเตอร์ เช่น
- ฟีดแบ็กในส่วนของเกณฑ์การพิจารณาตรงโปรไฟล์ ว่าจะต้องมีข้อมูล “ครบสมบูรณ์” ซึ่งทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเป็นการจำกัดมากเกินไป จึงได้อัปเดตคำจำกัดความใหม่ โดยไม่จำเป็นต้องมีข้อมูลของโปรไฟล์ หรือภาพเฮดเดอร์
- ทวิตเตอร์ ได้อัปเดตข้อมูลอ้างอิงบน Wikipedia เพื่อให้มีความสอดคล้องกับ มาตรฐานการเผยแพร่บทความของสารานุกรม เพื่อให้มีคุณภาพ และโดดเด่นมากขึ้น
- เพื่อความชัดเจนและมีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่เป็นหมวดหมู่ของ “ข่าว” ทวิตเตอร์ได้เพิ่มเป็นหมวดหมู่ของ “ข่าวและนักข่าว” และในส่วนของหมวดหมู่ “กีฬา” มีการเพิ่มเป็น “กีฬาและอีสปอร์ตส” รวมทั้งเพิ่มส่วนของดิจิทัลคอนเท้นท์ครีเอเตอร์ เข้าไปในหมวดหมู่ “ความบันเทิง” เพื่อให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
- ฟีดแบ็กในเรื่องของข้อกำหนด ของจำนวนผู้ติดตามขั้นต่ำ ที่นับตามฐานของแต่ละประเทศ ซึ่งอาจจะไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง ในการพิจารณาเสมอไป จึงได้อัปเดตการพิจารณาจำนวนผู้ติดตาม ที่อ้างอิงตามฐานของแต่ละภูมิภาค เพื่อให้ข้อกำหนดในการนับจำนวนผู้ติดตาม และมีความเสี่ยงต่อการถูกสแปมน้อยลง และมีความเท่าเทียมต่อประชากรในทุกพื้นที่มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีหลายคนที่แนะนำให้เพิ่มหมวดหมู่ในการยืนยันตัวตน ของนักวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ และผู้นำ
ทางศาสนาเข้าไปด้วย ซึ่งทวิตเตอร์มีแผนที่จะเพิ่มหมวดหมู่ต่าง ๆ เหล่านี้ในนโยบายใหม่ภายในปีหน้า โดยในระหว่างนี้ บุคคลเหล่านี้อาจถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ของ “นักกิจกรรม ผู้จัดงาน และอินฟลูเอ็นเซอร์ ไปก่อน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
