บอร์ด ทอท. ไฟเขียว 5 มาตรการเยียวยาในสนามบินแบบคอมโบ้เช็ต ช่วยพยุงธุรกิจ ‘แอร์ไลน์-ร้านค้า’ ฝ่าวิกฤติโควิด-19 ถึงสิ้นปี 63 หลังคาดการณ์ไวรัสทำผู้โดยสารหดตัว 50%
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ผู้บริหารท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งในประเทศไทย เปิดเผยว่า วานนี้ (22 เม.ย.) ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ครั้งที่ 5/2563 ที่มีนายประสงค์ พูนธเนศ เป็นประธาน มีมติอนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบินที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบดำเนินงานของ ทอท. เพิ่มเติมจากมติบอร์ดเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการและสายการบินจากการลดลงของเที่ยวบินและผู้โดยสาร และสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ
เนื่องจาก ทอท. ประเมินว่า ในปีงบประมาณ 2563 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 – กันยายน 2563 การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะส่งผลให้ปริมาณเที่ยวบินลดลง 45% เหลือประมาณ 493,800 เที่ยวบิน และปริมาณผู้โดยสารลดลง 53% เหลือ 66.58 ล้านคน
นายนิตินัยกล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการและสายการบินที่ บอร์ด ทอท. เห็นชอบเพิ่มเติม มีรายละเอียด ดังนี้
1.มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบินเกี่ยวกับค่าเช่าพื้นที่ ค่าบริการการใช้บริการในอาคาร -และ-ค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่รายเดือน
1.1 กรณีผู้ประกอบการและสายการบินมีหนังสือขอยกเลิกการประกอบกิจการชั่วคราว หรือท่าอากาศยานของ ทอท. ปิดให้บริการชั่วคราว ทอท. จะยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าพื้นที่ ค่าบริการการใช้บริการในอาคาร และค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่รายเดือนให้กับผู้ประกอบการและสายการบิน มีกำหนดระยะเวลา 9 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 ธันวาคม 2563 หรือวันที่ผู้ประกอบการและสายการบินแจ้งขอกลับเข้ามาประกอบกิจการ แล้วแต่วันใดจะถึงก่อน
1.2 กรณีผู้ประกอบการและสายการบินที่ยังประกอบกิจการ ณ ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบดำเนินงานของ ทอท.
1.2.1 ปรับลดค่าเช่าพื้นที่ในอัตรา 50% ให้แก่ผู้เช่าทุกราย มีกำหนดระยะเวลา 9 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 ธันวาคม 2563
1.2.2 เรียกเก็บค่าบริการการใช้บริการในอาคาร ในอัตรา 15% ของค่าเช่าพื้นที่ที่ปรับลดลง 50%
1.2.3 ให้ใช้อัตราค่าเช่าพื้นที่และค่าบริการการใช้บริการในอาคารตามบัญชีอัตราค่าภาระการใช้ท่าอากาศยาน ทรัพย์สิน บริการและความสะดวกต่างๆ ในกิจการของ ทอท. ฉบับปี 2559 สำหรับการคิดส่วนลดตามข้อ 1.2.1 และ 1.2.2
2.มาตรการช่วยเหลือสายการบินในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ
2.1 กรณีสายการบินขอหยุดให้บริการชั่วคราวหรือท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท. ปิดให้บริการชั่วคราว ทอท. จะยกเว้นค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Charges) มีกำหนดระยะเวลา 9 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 ธันวาคม 2563 โดยมีเงื่อนไขว่า จะต้องได้รับอนุมัติการยกเว้นการเรียกเก็บอัตราดังกล่าวจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
2.2 ให้ส่วนลดค่าบริการในการขึ้นลงของอากาศยาน (Landing Charges) ในอัตรา 50% และค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Charges) สำหรับสายการบินที่ยังคงมีเส้นทางบิน ในอัตรา 50% สำหรับทุกเส้นทางการบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ เป็นระยะเวลา 9 เดือน ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 31 ธันวาคม 2563
2.3 กรณีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) ให้มีสิทธิเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
2.4 สายการบินที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการตลาดด้านการบิน (Incentive Scheme) หรือมาตรการช่วยเหลือของ ทอท. จะได้รับประโยชน์ในรายการสนับสนุนประเภทเดียวกันได้เพียงรายการเดียวที่สายการบินได้รับประโยชน์สูงสุด
- ทอท. งดเก็บค่าเช่าพื้นที่ 9 เดือน ช่วยผู้ประกอบการ-สายการบิน หลังเผชิญโควิด
- ‘โควิด’ กระทบเศรษฐกิจ ‘CLMV’ เติบโตต่ำสุดในรอบ 2 ทศวรรษ!!
- หนัก! ‘ทอท.’ คาดผู้โดยสารทรุด 53% ต้องรอปีงบ 65 สถานการณ์จึงกลับสู่ปกติ
3.ให้สิทธิ์เลื่อนการชำระค่าเช่าพื้นที่ ค่าบริการการใช้บริการในอาคาร ค่าบริการสนามบิน (Landing and Parking Charges) และค่าเครื่องอำนวยความสะดวก (Aircraft Service Charges) ให้กับผู้ประกอบการและสายการบินที่ร้องขอ จำนวน 9 งวด ตั้งแต่งวดเดือนเมษายน – ธันวาคม 2563 โดยในแต่ละงวดให้ขยายระยะเวลาการชำระออกไปเป็นระยะเวลา 6 เดือนจากวันครบกำหนดชำระตามระยะเวลาปกติ ทั้งนี้ เฉพาะในกรณีที่ผู้ประกอบการและสายการบินร้องขอ
4.ขยายระยะเวลาการชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนในการประกอบกิจการของผู้ประกอบการตามมติบอร์ด ทอท. ครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 จากเดิมจำนวน 6 งวด ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – กรกฎาคม 2563 เป็นเป็น 11 งวด ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – ธันวาคม 2563 โดยให้ขยายระยะเวลาการชำระของแต่ละงวดออกไปเป็นระยะเวลา 6 เดือนจากวันครบกำหนดชำระตามระยะเวลาปกติ ทั้งนี้ เฉพาะในกรณีที่ผู้ประกอบการและสายการบินร้องขอ
5.ปรับอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่และอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำจากการประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทอท. ภายหลังสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการตามมติบอร์ด ทอท. ครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ดังนี้
5.1 สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการเป็นลายลักษณ์อักษรจาก ทอท. หรือที่มีการลงนามในสัญญาและเข้าพื้นที่ประกอบกิจการก่อนหรือภายในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 หรือผู้ประกอบการรายเดิมที่มีการต่อสัญญากับ ทอท. ในระหว่างที่มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการฯ มีผลอยู่ ให้นำอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่ และ/หรืออัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำของปีก่อนหน้ามีมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการฯ หรือปี 2562 มาใช้กำหนดเป็นอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่ และ/หรืออัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ
5.2 สำหรับผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการเป็นลายลักษณ์อักษรจาก ทอท. หรือที่มีการลงนามในสัญญาแล้ว แต่ยังไม่เข้าพื้นที่ประกอบกิจการก่อนหรือภายในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ให้นำอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่ และ/หรืออัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่ผู้ประกอบการยื่นข้อเสนอในการประมูลหรือการเจรจาตกลงค่าตอบแทน มาใช้กำหนดเป็นอัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่ และ/หรือ อัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ
5.3 ในการเรียกเก็บค่าตอบแทนจากผู้ประกอบการตามข้อ 5.1 และ 5.2 สำหรับปีถัดจากปีแรกของรอบสัญญาหลังจากสิ้นสุดมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการฯ ให้ฝ่ายบริหาร ทอท. พิจารณาเปรียบเทียบจำนวนผู้โดยสาร ณ ปีนั้นกับปีก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 หรือปี 2562 หากน้อยกว่า ให้ใช้อัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนคงที่ และ/หรือค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำของปี 2562 ของแต่ละท่าอากาศยานมาใช้กำหนดเป็นอัตราเรียกเก็บ แต่หากปรากฏว่า จำนวนผู้โดยสาร ณ ปีนั้น มากกว่าปี 2562 ให้ใช้อัตราการเติบโตจากจำนวนผู้โดยสาร ณ ปีนั้น เพื่อเป็นฐานในการคำนวณค่า MAGi เป็นต้นไป
ทั้งนี้ มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบินข้างต้น ใช้กับผู้ประกอบการและสายการบินเฉพาะที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมีนิติสัมพันธ์กับ ทอท. อยู่ก่อนแล้วในวันที่คณะกรรมการ ทอท. มีมติ และ ทอท. สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือยกเลิกเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและสายการบิน ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19