“นกสกู๊ต” ออกแถลงการณ์ยอมรับลดขนาดธุรกิจ ต้องเลิกจ้างพนักงาน 47 ตำแหน่ง ด้าน “นกแอร์” ปลดนักบิน 4 คน
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า สายการบินนกแอร์และสายการบินนกสกู๊ตได้ประกาศเลิกจ้างนักบินและลูกเรือ เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (COVID-19) นั้น
เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันนี้ (24 ก.พ.) สายการบินนกสกู๊ตได้ออกแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนเรื่อง “การปรับลดขนาดธุรกิจของสายการบินนกสกู๊ตในปี 2563” ว่า จากการประเมินทางธุรกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 สายการบินนกสกู๊ตได้ตัดสินใจดำเนินการปรับลดขนาดธุรกิจในปี 2563 ซึ่งการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (COVID-19) แต่ประการใด
ขณะเดียวกัน เป็นเรื่องน่าเสียดายที่การปรับลดขนาดธุรกิจในครั้งนี้ ยังรวมไปถึงการเลิกจ้างพนักงานจำนวน 47 ตำแหน่ง ประกอบด้วยนักบิน 11 ตำแหน่ง และพนักงานต้อนรับบนเครี่องบิน 36 ตำแหน่ง ซึ่งได้ดำเนินการอย่างรอบคอบและเป็นไปตามกรอบของกฎหมายแรงงาน
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในวงกว้าง โดยเฉพาะธุรกิจการบริการและธุรกิจการบิน สายการบินนกสกู๊ตได้ใช้มาตรการระยะสั้นเพื่อรับมือกับสถานการณ์ในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์นี้จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีในเร็ววัน
ด้านแหล่งข่าวจากสายการบินนกแอร์ยอมรับว่า สายการบินนกแอร์เลิกจ้างนักบินจำนวน 4 คน แต่ไม่มีการเลิกจ้างลูกเรือแต่อย่างใด โดยนักบินที่ถูกเลิกจ้างจะมีการจ่ายชดเชยตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างปี 2559-2561 บริษัท สายการบินนกสกู๊ต จำกัด มีผลประกอบการขาดทุน 3 ปีติดต่อกัน ส่วนปี 2562 ยังไม่มีการแจ้งผลประกอบการแต่อย่างใด โดยรายละเอียดเป็นดังนี้
- ปี 2559 รายได้รวม 3,910 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 612 ล้านบาท
- ปี 2560 รายได้รวม 5,650 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 47 ล้านบาท
- ปี 2561 รายได้รวม 5,920 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 1,528 ล้านบาท
- ‘นกแอร์-นกสกู๊ต’ เลิกจ้างนักบินรวม 28 ชีวิต ลูกเรืออีกครึ่งร้อย
- ปลดฟ้าผ่า! ฮ่องกง แอร์ไลนส์ เลิกจ้างพนักงานทันที 170 คน
- ‘บินไทย’ ปัดยังไม่ลดเงินเดือนพนักงาน หากสถานการณ์หนักจริง ‘ผู้บริหาร’ เสียสละก่อน