Business

ยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่ ก.ย. ลดลงตามฤดูกาล สวนทางยอดเลิกกิจการเพิ่ม 4.78%

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่เดือนกันยายน 7,107 ราย ลด 1.55% เหตุเป็นไปตามฤดูกาลที่จะจัดตั้งสูงในช่วงต้นปีและลดลงในช่วงปลายปี ส่วนยอดเลิกมีจำนวน 2,039 ราย เพิ่ม 4.78%

นายจิตรกร ว่องเขตกร รองอธิบดี กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือน กันยายน 2566 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศ 7,107 ราย ลดลง 4.27% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 2566 และลดลง 1.55% เมื่อเทียบกับ กันยายน 2565

ยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่

การจัดตั้งธุรกิจใหม่ที่ลดลง เนื่องจากเป็นไปตามฤดูกาลของการจดทะเบียน ที่จะมีแนวโน้มการจดจัดตั้งสูงในช่วงต้นปี และลดลงในช่วงปลายปี

สำหรับมูลค่าทุนจดทะเบียนบริษัทตั้งใหม่อยู่ที่กว่า 2.4 หมื่นล้านบาท โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร

ส่วนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ มีจำนวน 2,039 ราย เทียบกับเดือนสิงหาคม 2566 เพิ่ม 7.50% เทียบกับเดือนกันยายน 2565 เพิ่ม 4.78% มีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการ 17,229.98 ล้านบาท

ทั้งนี้ ประเภทธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร

สำหรับการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่รวม 9 เดือน ปี 2566 (ม.ค.-ก.ย.) มีจำนวน 68,665 ราย เพิ่มขึ้น 12.94% โดยเป็นจำนวนการจัดตั้งใหม่รวมสูงสุดในรอบ 10 ปี และจดทะเบียนเลิก จำนวน 13,010 ราย เพิ่มขึ้น 13.74%

จิตรกร ว่องเขตกร
จิตรกร ว่องเขตกร

นายจิตรกรกล่าวว่า ปัจจัยที่สนับสนุนการจดทะเบียนธุรกิจให้เติบโตสูงขึ้น ยังคงมาจากภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในช่วง 9 เดือน ของปี 2566 มีการจัดตั้ง้ใหม่เพิ่มขึ้นถึง 54.32% เช่น ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพิ่ม 185% ธุรกิจตัวแทนการเดินทาง เพิ่ม 116% ธุรกิจจัดนำเที่ยว เพิ่ม 83.65% ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร เพิ่ม 41.74% และธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต และห้องชุด เพิ่ม 35.75% มีสัดส่วนคิดเป็น 8.01% ของจำนวนธุรกิจที่จัดตั้งทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจน่าจับตามองที่เติบโตกว่า 150% เช่น ธุรกิจขายส่งข้าวเปลือกและธัญพืช เพิ่ม 169% คาดว่าเป็นผลมาจากนโยบาย BCG Model ที่ส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตข้าวรักษ์โลก และธุรกิจกิจกรรมบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โดยได้รับค่าตอบแทนหรือตามสัญญาจ้าง เพิ่ม 165% คาดว่าเป็นผลมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่กลับมาเติบโต

จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น กรมได้คาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ประมาณ 3.2-3.9 หมื่นราย และตลอดทั้งปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 7.9-8.6 หมื่นราย

ปัจจุบัน มีธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 จำนวน 885,521 ราย มูลค่าทุน 21.50 ล้านล้านบาท จำแนกเป็น

  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 200,156 ราย คิดเป็น 22.60%
  • บริษัทจำกัด จำนวน 683,936 ราย คิดเป็น 77.24%
  • บริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,429 ราย คิดเป็น 0.16%

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo