Business

บีโอไอ เปิดโอกาสต่างชาติ ขอ ‘LTR Visa’ ผู้มีทักษะพิเศษ เพิ่ม 15 สาขาอุตสาหกรรม กระตุ้นลงทุนในไทย

บีโอไอ เปิดโอกาสต่างชาติ ขอ ‘LTR Visa’ ผู้มีทักษะพิเศษ เพิ่ม 15 สาขาอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อกระตุ้นการลงทุนในไทย

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้เห็นชอบให้ปรับปรุงคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน

โดยการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย (Long-Term Resident Visa: LTR Visa) เพื่อให้การดึงดูดผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด อีกทั้งมีความยืดหยุ่นในการรับรองคุณสมบัติมากขึ้น

บีโอไอ

เพิ่มเติม 15 สาขาอุตสาหกรรมเป้าหมายของ LTR Visa

โดยบีโอไอได้เสนอให้เพิ่มเติมและปรับปรุงอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อรับรองคุณสมบัติแก่ชาวต่างชาติที่มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษในสาขาที่ประเทศยังขาดแคลน (Highly Skilled Professional) รวม 15 สาขา ดังต่อไปนี้

  1. อุตสาหกรรมยานยนต์
  2. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
  3. อุตสาหกรรมท่องเที่ยวระดับคุณภาพ
  4. อุตสาหกรรมการเกษตร อาหารและเทคโนโลยีชีวภาพ
  5. อุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์
  6. อุตสาหกรรมระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์
  7. อุตสาหกรรมการบิน อากาศยานและอวกาศ
  8. อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ
  9. อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์
  10. อุตสาหกรรมดิจิทัล
  11. อุตสาหกรรมการแพทย์
  12. อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ
  13. อุตสาหกรรมที่สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนโดยตรง เช่น การผลิตเชื้อเพลิงจากขยะ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
  14. ศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (IBC)
  15. อุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ต้องทำงานโดยใช้ทักษะเชี่ยวชาญพิเศษในด้านใดด้านหนึ่ง เช่น นักวิจัยในสาขาอุตสาหกรรมหรือเทคโนโลยีเป้าหมาย หรือผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ทั้งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ระบบดิจิทัล การเงิน สิ่งแวดล้อมและพลังงาน ผู้เชี่ยวชาญในโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัป รวมทั้งองค์กรส่งเสริมการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศ

บีโอไอ

ยื่นขอแล้ว 3,000 ราย

การเพิ่มและปรับปรุงอุตสาหกรรมเป้าหมายของ LTR Visa ในครั้งนี้ เพื่อให้ครอบคลุมอุตสาหกรรมเป้าหมาย และทักษะความเชี่ยวชาญในสาขาที่มีความสำคัญและประเทศยังขาดแคลน

โดยเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงกลุ่มนี้ สามารถได้รับ LTRVisa เพื่อเข้ามาทำงานร่วมกับบุคลากรไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการถ่ายทอดองค์ความรู้ และการพัฒนาเศรษฐกิจการลงทุนของไทยได้ในระยะยาว โดยปัจจุบันมีชาวต่างชาติมายื่นขอแล้วกว่า 3,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกัน จีน และยุโรป

สำหรับบุคลากรชาวต่างชาติ 4 กลุ่ม

  1. ผู้มีความมั่งคั่งสูง ต้องมีทรัพย์สินมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐ/ปี และลงทุนในไทยไม่น้อยกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐ
  2. ผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ ต้องมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐ/ปี กรณีรายได้ต่ำกว่าที่กำหนด ต้องลงทุนไม่น้อยกว่า 250,000 เหรียญสหรัฐ ในพันธบัตรรัฐบาล หรืออสังหาริมทรัพย์
  3. ผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย ต้องมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐ/ปี กรณีรายได้ต่ำกว่าที่กำหนด ต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป หรือครอบครองทรัพย์สินทางปัญญา หรือได้รับเงินทุน Series A
  4. ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ ต้องมีรายได้ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 80,000 เหรียญสหรัฐ/ปี กรณีรายได้ต่ำกว่าที่กำหนด ต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไปในสาขาวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยีหรือมีความเชี่ยวชาญในสายงานที่เข้ามาทำในประเทศไทย

บีโอไอ

สิทธิประโยชน์

  • ได้สิทธิพำนักในประเทศไทย 10 ปี
  • สามารถใช้ช่องทางพิเศษ (Fast Track) ในการเข้าออกราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศ
  • รายงานตัวทุก1 ปี (จากเดิมทุก 90 วัน)
  • ไม่ต้องยื่นขออนุญาตกลับเข้ามาในราชอาณาจักร (Re-entry permit)
  • อนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย โดยลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลือ 17% สำหรับกลุ่มผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ และมีผู้ติดตามได้ 4 คน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo