‘อนุทิน’ นำทีมต้อนรับ ‘นักท่องเที่ยวจีน’ ไฟลท์แรก เผยไตรมาสแรก มีตารางบินเข้าไทย 573 เที่ยวบิน
วันนี้ 9 มกราคม 2566 เวลา 12.19 น. สายการบินเซี่ยเหมินแอร์ไลน์ (XiamenAir) เที่ยวบิน MF833 เส้นทางเซียะเหมิน-กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) เที่ยวบินแรกที่นำนักท่องเที่ยวจีน 269 คนเดินทางมาถึงประเทศไทย หลังจีนผ่อนคลายมาตรการเปิดให้ประชาชนเดินทางหลังจากปิดประเทศช่วงการระบาดของโควิด 19 นานถึง 3 ปี โดยวันนี้ มีเที่ยวบินขาเข้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จำนวน 15 เที่ยวบิน จำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 3,465 คน
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เดินทางมารับนักท่องเที่ยวจีนคณะแรกตามกำหนดการ
สายการบินจีนบินเข้าไทย ช่วงไตรมาสแรก
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ระบุว่า ในช่วงระหว่างดือนมกราคม-มีนาคม 2566 มีสายการบินของจีนขอตารางการบินเข้าประเทศไทยใน 3 ท่าอากาศยานหลัก คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูเก็ต จำนวน 15 สายการบิน โดยขอทำการบินรวม 15 เที่ยวบินต่อวัน
ประกอบด้วย
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวม 338 เที่ยวบิน เแบ่งเป็นในเดือนมกราคม 98 เที่ยวบิน เดือนกุมภาพันธ์ 144 เที่ยวบิน และ มีนาคม 96 เที่ยวบิน
- ท่าอากาศยานภูเก็ต มีเที่ยวบินระหว่างวันที่ 15-17 กุมภาพันธ์ วันละ 1 เที่ยวบิน วันที่ 18 กุมภาพันธ์ – วันที่ 25 มีนาคม วันละ 4 เที่ยวบิน
- ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เดือนมกราคม 42 เที่ยวบิน เดือนกุมภาพันธ์ 84 เที่ยวบิน และเดือนมีนาคม 74 เที่ยวบิน รวม 200 เที่ยวบิน
ปี 66 นกท่องเที่ยวจีนเข้าไทย 7-10 ล้านคน
จากข้อมูลจำนวนผู้โดยสารของ การท่าอากาศยานแห่งปรเทศไทย (ทอท.) คาดการณ์ว่าตลอดปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางผ่านท่าอากาศยานของ ทอท. ประมาณ 7 – 10 ล้านคน จากเดิมที่ก่อนการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 มีจำนวน 20.5 ล้านคน ซึ่งกระทรวงคมนาคมมีความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในทุกท่าอากาศยาน โดยมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้อย่างเพียงพอ
นายอนุทิน กล่าวว่า ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานในสังกัดอำนวยความสะดวกและการให้บริการนักท่องเที่ยวและผู้เดินทางในทุกมิติ ตั้งแต่นักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงประเทศไทย โดยได้เน้นย้ำให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยคำนึงถึงความสะดวก รวดเร็วและความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสำคัญ
แก้ปัญหากระเป๋าสัมภาระล่าช้า
สำหรับปัญหากระเป๋าสัมภาระล่าช้า และการให้บริการรถสาธารณะ ที่พบก่อนหน้านี้ กระทรวงคมนาคมได้เร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ปัจจุบันพบว่า ค่าเฉลี่ยเวลาในการลำเลียงกระเป๋าสัมภาระจากเครื่องบินจนถึงผู้โดยสาร First bag ใช้เวลาเฉลี่ย 27 นาที และ Last bag ใช้เวลาเฉลี่ย 44 นาที ซึ่งมีความรวดเร็วขึ้น
การให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ปัจจุบันได้เพิ่มจำนวนการให้บริการให้เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้บริการ และจัดระเบียบ ขยายพื้นที่ เพื่อลดความแออัดของผู้มาใช้บริการ ซึ่งผู้โดยสารใช้เวลารอคิวใช้บริการประมาณ 10 นาทีต่อคน
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้าเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยั่งยืน เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
การเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมไปถึงประเทศอื่น ๆ ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย และการสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชน อันส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวภายหลังจากสถานการณ์ COVID-19
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ปรับมาตรการ ‘ยกเลิกตรวจเอกสารฉีดวัคซีน 2 เข็ม’ หลังนักท่องเที่ยว เมินเข้าไทย
- กำหนด 3 แนวทาง มาตรฐานการบริการวิถีใหม่ ‘โรงพยาบาล-สถานบริการสุขภาพ’ รับมือโควิดในอนาคต
- เอกชน วอน ‘ยกเว้นตรวจเอกสารการฉีดวัคซีน 2 เข็ม’ หวั่น ‘นักท่องเที่ยว’ เปลี่ยนใจไม่เข้าไทย