“พนักงานกรุงไทย” ขอเล่าอีกมุม “ดราม่าเราชนะ” ธนาคารสาขานึงเป็นแค่ 10 คน ต้องรับมือลูกค้าเป็นพันต้องมีผิดพลาดบ้าง โซเชียลฯ ฟังแล้วเสียงแตก
โครงการเยียวยาโควิด-19 “เราชนะ” กลายเป็นปัญหาวุ่น หลังจากเมื่อวานนี้ (15 ก.พ.) เราชนะได้เปิดลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 7,000 บาท สำหรับกลุ่มที่ไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน โดยผู้ต้องการใช้สิทธิ์ ต้องเดินทางไปลงทะเบียนที่ ธนาคารกรุงไทย หรือจุดบริการด้วยตัวเองเท่านั้น
เมื่อถึงวันจริงก็มีปัญหาเกิดขึ้น ประชาชนจำนวนมากเดินทางไปลงทะเบียนที่ธนาคาร บางสาขาเป็นพันคน บางสาขาเข้าแถวยาวเป็นครึ่งกิโลเมตร โดยพบว่าประชาชนที่ไปรอใช้บริการส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่เข้าไม่ถึงเทคโนโลยี บางคนเหมารถเดินทางข้ามจังหวัดไปรอลงทะเบียน และจำนวนหนึ่งเป็นลม เพราะต้องรอกลางแดดเป็นเวลานาน
ขณะเดียวกันเกิดดราม่าที่ธนาคารกรุงไทย สาขาบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เมื่อคุณยายคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า ถูกเจ้าหน้าที่ธนาคารพูดจาไม่ดีใส่ หลังจากเกิดเหตุระบบคอมพิวเตอร์ล่ม ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนโลกออนไลน์
พนักงานกรุงไทยขอแจง “ดราม่าเราชนะ”
ล่าสุดวันนี้ (16 ก.พ.) เพจเฟซบุ๊กชื่อดัง drama-addict ได้โพสต์ข้อความจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยคนหนึ่งที่ได้ inbox มา เพื่อเล่ามุมอีกด้านของเหตุการณ์ดังกล่าว
“แอดค่ะ
เราในฐานะที่เป็นพนักงาน ธ.กรุงไทยค่ะ เราแค่อยากเล่าให้แอดฟังนะคะ ธนาคารกรุงไทยก็เป็นแค่หน่วยงานนึงที่รับนโยบายมาจากรัฐ พวกเราเป็นเพียงพนักงานที่ต้องทำตามคำสั่งค่ะ
แต่เราอยากให้มองอีกมุมนึง ตั้งแต่มีนโยบายที่ออกมามากมาย ตั้งแต่ “โครงการชิมช้อปใช้” พวกเราพนักงาน ต้องออกตลาดเพื่อเชิญชวนร้านค้ามาเข้าร่วมโครงการ และตอนนั้นร้านค้าต่างๆ ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ ซึ่งพวกเราก็ต้องเชิญชวนร้านค้าให้ครบตามเป้าหมายของรัฐ
โครงการ เราไม่ทิ้งกัน พนง.ธ กรุงไทย ต้องลงพื้นที่ไปทบทวนสิทธิให้แก่ประชาชน ซึ่งตอนนั้นโควิดกำลังระบาดหนัก พวกเรากลัวโควิดกันมาก แต่ก็ต้องลงพื้นที่ ทำหน้ที่เป็นผู้พิทักษ์เพื่อทบทวนสิทธิ์ให้กับชาวบ้าน
โครงการ คนละครึ่ง ทั้งการต้องลงพื้นที่หาร้านค้าเข้าร่วมโครงการ ทั้งการยืนยันตัวตนให้กับผู้ที่ได้ลงทะเบียนไปแล้ว ในสถานะการณ์ที่โควิดระบาต ในช่วงที่หน่วยงานอื่นๆ เค้า work form home แต่พวกเราต้องออกมาทำหน้าที่ทุกวัน
จนมาถึงโครงการ เราชนะ ในวันนี้ แอดรู้มั้ยคะว่า สาขานึง จะมี พนง.อยู่แค่ประมาน 10 คนเองค่ะ บางส่วนต้องถูกแบ่งไปช่วยในจุดบริการที่ตั้งอยู่ในหน่วยงานของรัฐ และพวกเราก็ยังต้องทำงานประจำวันด้วย การที่ พนง แค่ 10 คน จะรับมือกับประชาชนเป็นร้อยเป็นพัน มันต้องมีข้อผิดพลาดกันบ้างค่ะ เราเข้าใจค่ะว่า อาจจะมี พนง.บางคนที่อาจจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้จนแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีออกไปบ้าง ทุกวันนี้พวกเราก็กลัวโควิดเหมือนกับคนอื่นๆ นะคะ
จากประสบการณ์ที่ได้ลงพื้นที่เป็นผู้พิทักษ์ทบทวนสิทธิให้ประชาชนในโครงการเราไม่ทิ้งกัน เมื่อเราได้เห็นรอยยิ้มของชาวบ้น เมื่อเขาได้รับความช่วยเหลือ เรารู้สึกมีความสุขมากค่ะ. ซึ่งก็หวังว่าในครั้งนี้ ทุกคนจะได้บความช่วยเหลืออีกครั้งค่ะ และยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรอยยิ้มในครั้งนี้อีกครั้งค่ะ
ขอบคุณแอดนะคะ”
โดยเพจ drama-addict ได้แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าวว่า
“จากใจพนักงาน ธ กรุงไทยคนนึงฝากมาครับ
ประชาชนเขาเข้าใจนะ ไม่โทษระดับพนักงานหรอก
แต่อยากให้คนที่กำหนดนโยบาย คิดเรื่องพวกนี้ให้รอบคอบ
อย่าให้คนไปกระจุกที่กรุงไทยที่เดียว มันจะกลายเป็นคอขวดและเพิ่มความเสี่ยงหลาย ๆ อย่างมากครับ”
หลากความเห็นชาวโซเชียลฯ
ด้านโลกออนไลน์ได้แสดงความคิดเห็นหลายมุมมองต่อเรื่องดังกล่าว บางส่วนเห็นใจเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการที่ต้องทำตามนโยบาย เราชนะ และเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาระดับโครงสร้างที่มีระบบบริหารจัดการไม่ดี
บางส่วนมองว่าข้อความดังกล่าวเป็นแค่การขอความเห็นใจ หลังจากมีดราม่าเกิดขึ้น ขณะที่บางคนมองว่าถึงแม้จะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น พนักงานก็ควรต้องยึดหลักงานบริการ ไม่ควรแสดงกริยาไม่เหมาะสม
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ล่าสุดรัฐบาลได้แก้ปัญหาการลงทะเบียน เราชนะ กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ด้วยการขยายระยะเวลาปิดรับลงทะเบียนจากเดิมวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่ 5 มีนาคม 2564 โดยนำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด (Smart Card) ไปติดต่อขอลงทะเบียนได้ที่สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย และต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนโดยการเสียบบัตรประจำตัวประชาชน (Dip Chip) ผ่านเครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Capture หรือ EDC) พร้อมกำหนดรหัส (PIN Code)
สำหรับผู้พิการ ผู้ป่วย และผู้สูงอายุ ที่เดินทางไม่ได้ จะมีอาสาสมัครระดับหมู่บ้าน และหน่วยเคลื่อนที่ของ ธนาคารกรุงไทยไปรับลงทะเบียนถึงบ้าน กรณีผู้พิการที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ผู้ดูแล หรือ คนในครอบครัว ช่วยลงทะเบียนให้ได้
ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับสิทธิ์จากโครงการ สามารถซื้อของได้โดยให้ร้านค้า ใช้แอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” สแกนบัตรประชาชนของผู้ซื้อ วงเงินจะเข้าบัตรประชาชนเป็นรายสัปดาห์งวดแรก ได้วันที่ 5 มีนาคม 2564 และทยอยได้จนครบ 7,000 บาท
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘นักวิชาการ’ วิจารณ์แรง ‘เราชนะ’ ทำร้าย ‘คนจน’ ซ้ำซาก
- เช็คที่นี่!! เปิดวิธียืนยันตัวตน ‘เราชนะ’ ผ่านแอปเป๋าตังรับเงิน 7,000 บาท
- ไม่ต้องมาต่อคิว! ‘เราชนะ’ เตรียมบุกรับลงทะเบียน ‘คนแก่-ผู้พิการ’ ถึงที่บ้าน
