Politics

สุดทน! ‘ดำรง พุฒตาล’ แฉค่าหัวแรงงานพาข้ามแดน ส่งถึงสมุทรสาคร

“ดำรง พุฒตาล” สุดทน แฉเล่ห์ลักลอบพาแรงงานเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ผ่านด่านไม่รู้กี่ด่าน หัวละ 10,000 บาท ตามช่องทางธรรมาชาติ ราคาไม่แพง แต่สมุทรสาครวิกฤติระบาดโควิด 

จากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 เกิดขึ้นในหลายๆพื้นที่ ล่าสุดที่ ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร เกิดขึ้นในกลุ่มแรงงานพม่า โดยจำนวนผู้ป่วยสะสม ทั้งในกลุ่มแรงงานและผู้ติดมาจากกลุ่มแรงงาน มียอดสะสม 821 รายแล้ว

ล่าสุด นายดำรง พุฒตาล ประธานชมรมเมาไม่ขับ ได้โพสต์ข้อความ ถึงการลักลอบนำแรงงานเข้าประเทศมาอย่างผิดกฎหมาย ที่ถูกขึ้นราคาช่วงโควิด แต่สุดท้ายก็สามารถพาคนเหล่านี้เข้ามาได้ และผ่านด่านไม่รู้กี่ด้านเข้ามาโดยข้อความระบุว่า “ผมมีคนที่รู้จักและสนิทสนมกันมาก อยู่ในจังหวัดสมุทรสาครอยู่หลายคนเป็นเพื่อน ที่เรียนหนังสือมาด้วยกันก็มี เป็นอดีต สส.ก็มี ที่สำคัญเป็นนักธุรกิจใหญ่ทางด้านประมงระดับประเทศ ซึ่งมักจะได้พูดคุยกันในเรื่องการค้าอาหารทะเลอยู่เสมอๆ เพื่อนพ่อค้าคนนี้ ได้บอกมาด้วยความเจ็บปวดว่า วิกฤติโควิดในสมุทรสาครคราวนี้เขาเสียหายเป็น 100 ล้านบาท”

เชื้อโควิด 19 ได้บุกเข้ามาในสมุทรสาครนำเชื้อมาโดยตรงจากประเทศเมียนมา หรือพม่า โดยคนพม่า ชาวสมุทรสาครบางระดับรู้ดีว่า พวกหม่องที่นำเชื้อมา ผ่านเส้นทางตามช่องทาง “ธรรมชาติ” หัวละ 10,000 บาท บริการจากช่องทางธรรมชาติส่งให้ถึงที่สมุทรสาครเลย ผมคิดว่าราคา 10,000 บาทนี้ไม่แพงเลย เพราะจากชายแดนพม่า กว่าจะถึงสมุทรสาครนั้นจะต้องผ่าน “ด่าน” ไม่รู้กี่ด่าน เพื่อนบอกว่าก่อนมี โควิดราคาถูกกว่านี้

ดำรง11

เพื่อนผมอีกคนหนึ่งเป็นอดีตกำนัน ได้สร้างสนามบาสเกตบอล ในเขตพื้นที่ของเขาเพื่อให้ลูกบ้านได้มาออกกำลังกาย และมีสันทนาการปรากฏว่า ทุกเย็นแทบจะไม่มีเด็กไทยไปเล่นบาสเกตบอลในสนามนี้เลย เพราะจะมีแต่คนพม่าเท่านั้นที่เล่นกันเต็มสนามนี่ก็จะบอกได้ว่า จังหวัดสมุทรสาครมีคนพม่าอยู่กันมากมายเต็มเมืองขนาดไหน มีความเป็นไปได้สูงว่าในอนาคต. นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร อาจเป็นคนพม่าก็ว่าได้

ในฐานะผมเป็นประธานและผู้ร่วมก่อตั้ง “มูลนิธิเมาไม่ขับ” ขอเปรียบเทียบว่าเชื้อโควิด19 นั้นเหมือนกับคนเมาแล้วออกไปขับรถซึ่งทั้งสองอย่างนี้เราจะปลอดภัยได้จากโควิด19 คือเราและบ้านเมืองทุกภาคส่วนต้องช่วยกันป้องกันการระบาดของเชื้อโควิด และในทำนองเดียวกันเราจะปลอดภัยจากอุบัติเหตุบนท้องถนนก็ต้องขจัดและช่วยกันทุกองคาพยพไม่ให้คนเมาออกมาขับรถนั่นเอง

ในตอนที่โรคเอดส์ HIV ระบาดไปทั่วโลกผมก็ไม่ได้กังวลว่าตัวเองจะติดเชื้อนี้ เพราะถ้าเราไม่ไปส่ำส่อนทางเพศผมก็ไม่มีทางจะได้รับหรือต้องตายด้วยเชื้อ HIV นี้ ในทางตรงกันข้าม ผมอาจจะถูกคนเมาขับรถชนผมตายทั้งๆ ที่ผมไม่ได้ดื่มเหล้าแม้แต่หยดเดียว หรือถ้าผมเดินอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร แต่ผมบังเอิญไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย ผมก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับเชื้อโควิดและอาจป่วยตายได้

อีกไม่กี่วันก็จะถึง ” 7วัน อันตรายบนท้องถนน” จากการเดินทางของคนไทยไปฉลองปีใหม่ในต่างจังหวัด ปีก่อนๆ มูลนิธิเมาไม่ขับของเราก็ช่วยกันโหมประชาสัมพันธ์เตือนสติคนไทยไม่ให้เมาแล้วขับรถแต่ปีนี้เราจำเป็นจะต้องมีจิตสำนึกร่วมกันให้รู้จักป้องกันตัวเองที่จะไม่ให้ได้รับเชื้อจากโควิด19

ปีใหม่ปีนี้ “กร่อยครับ” แต่อย่างไรก็ตามขอสวัสดีปีใหม่จากกรุงเทพฯ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight