โกลบัล คาร์บอน โปรเจ็ค เผยอานิสงส์โควิด-19 หลายประเทศล็อกดาวน์ ส่งผลโลกปล่อยคาร์บอนลดลง 7% น้อยสุดเป็นประวัติการณ์ 7%
รายงานจากองค์การ Global Carbon Project เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก ลดลงมากเป็นประวัติการณ์ถึง 7% ในปีนี้ โดย ผลวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Earth Systems Science Data ระบุว่า การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ลดลง 2,400 ล้านตัน สู่ระดับปัจจุบันที่ 3.4 หมื่นล้านตัน
การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ลดลงดังกล่าว เกิดจากการที่ประชาชนยังคงอยู่กับบ้าน และเดินทางด้วยรถยนต์และเครื่องบินน้อยลง
นอกจากนี้ ยังคาดการณ์ว่า การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จะพุ่งขึ้นอีกครั้ง หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สิ้นสุดลง
อย่างไรก็ตาม แม้การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลก จะลดลงมากเป็นประวัติการณ์ แต่โลกก็ยังมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยเฉลี่ย 1,075 ตันในอากาศทุกๆ วินาที
ขณะที่แนวโน้มการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในระยะยาว มีแนวโน้มที่จะได้รับอิทธิพลอย่างมาก จากแผนการของประเทศต่าง ๆ ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากผลกระทบของโรคโควิด-19
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้เรียกร้องให้ทั่วโลกดำเนินการอย่างจริงจัง ในด้านการปรับปรุงสภาพอากาศ โดยระบุว่า ปี 2564 จะต้องเป็นปีที่ทั่วโลก ก้าวกระโดดไปสู่อนาคต ที่จะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงเหลือศูนย์
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- รับเทรนด์ ยานยนต์ไฟฟ้า กฟผ. สร้าง ‘EGAT E-Bike’ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ประเดิม 51 คัน ใช้ในองค์กร
- นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมในมือว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
- ‘ลดโลกร้อน’ เข้าเป้า มุ่งลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเหลือ 20-25% ปี 73