สิงคโปร์ ยืนยัน คุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในที่พักแรงงานต่างชาติได้แล้ว หลังไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ในประเทศ ต่อเนื่องกันมา 14 วันแล้ว
ทางการสิงคโปร์กล่าวว่า แม้ว่าจะไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ ในประเทศติดต่อกัน 2 สัปดาห์ แต่ก็ยังมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนหนึ่ง ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ซึ่งต้องเข้าสู่มาตรการกักตัวทันที
ก่อนหน้านี้ ผู้ป่วยติดเชื้อในสิงคโปร์ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างชาติค่าแรงต่ำ เช่น บังกลาเทศ อินเดีย และจีน ที่พักอาศัยอยู่ในหอพักแออัดหลายแห่ง ซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคโควิด-19 ในสิงคโปร์ นับตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ทางการสิงคโปร์ ได้ประกาศใช้มาตรการกักตัวเข้มงวดในหอพักหลายแห่ง จนตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของกลุ่มสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ อีกทั้งยังต้องใช้เวลาหลายเดือน กว่าที่จะควบคุมการระบาดเป็นกลุ่มก้อนได้ แม้ว่าจะมีตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อในชุมชนอยู่ในระดับต่ำแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ สิงคโปร์เคยมียอดผู้ป่วยติดเชื้อรายวันอยู่ในระดับสูงเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และมีตัวเลขผู้ป่วยอยู่ในอันดับต้น ๆ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นช่วงที่อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ยังไม่มีการระบาดรุนแรงเท่าในปัจจุบัน ทางการสิงคโปร์จึงประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นเวลา 2 เดือน เพื่อควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ในเดือนเมษายน
ปัจจุบัน แม้ชาวสิงคโปร์สามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้ดังเดิม หลังสิ้นสุดมาตรการล็อกดาวน์ แต่ทางการก็ยังคงบังคับการสวมหน้ากากอนามัย การปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่เข้มงวด รวมถึงการปิดพรมแดนส่วนใหญ่ของประเทศ
นับถึงเมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) สิงคโปร์มียอดสะสมผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่ที่ 58,183 คน โดยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 18 คน ทั้งหมดเดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ และมียอดสะสมผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิดอยู่ที่ 28 ราย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เฮ! ‘บิ๊กตู่’ จ่อลงนามจองซื้อวัคซีน ‘โควิด’ คาดได้ใช้กลางปีหน้า
- ‘พาสปอร์ต โควิด’ กุญแจสำคัญ ฟื้นเดินทางโลก
- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดตัวเลข ‘หนี้ครัวเรือน’ พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์