Business

เรียนออนไลน์ โตไม่หยุด ยุคโควิด-19 ‘โกลบิช’ พลิกความท้าทายเป็นโอกาส

เรียนออนไลน์ โตไม่หยุด ยุคโควิด-19 โกลบิช อคาเดเมีย ชี้จำนวนคลาสเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ โตเพิ่มขึ้น 3 เท่า จาก 250 คลาสเป็นกว่า 600 คลาสต่อวัน

นายกิตติธัช อภิศักดิ์ศิริกุล ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ โกลบิช อคาเดเมีย เปิดเผยว่า ความนิยมในการ เรียนออนไลน์ โตไม่หยุด โดยพบว่า ตลาดคลาสเรียนออนไลน์ในประเทศไทย เติบโตขึ้นประมาณ 35% ต่อปี และมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก รวมทั้งขยายตัวที่เร็วกว่ารูปแบบการเรียนการสอนอื่น ๆ เนื่องจากยังเป็นตลาดใหม่

เรียนออนไลน์ โตไม่หยุด

ทั้งนี้ ปัจจัยหลักเป็นผลมาจาก แนวโน้มตลาดที่เปลี่ยนไป จากพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ในช่วงที่พนักงาน และนักเรียน ต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน โดย โกลบิช อคาเดเมีย พบว่า จำนวนคลาสเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า จาก 250 คลาสต่อวันเป็นกว่า 600 คลาสต่อวัน ในเดือนมีนาคมและเมษายน 2563

“ปัจจัยเสี่ยงหลังโควิด-19 คือ การควบคุมค่าใช้จ่าย และปรับรูปแบบการทำงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการดูแลพนักงานที่ต้องทำงานจากบ้านเป็นหลัก ถือเป็นสิ่งจำเป็น ที่บริษัทต้องบริหารจัดการ แต่กับธุรกิจการศึกษาที่เปิดคลาสออนไลน์อย่าง โกลบิช อคาเดเมีย บกลับ พบว่า ในความท้าทายกลับกลายเป็นโอกาสที่ดีของธุรกิจ”

ขณะที่จุดเด่นของหลักสูตรที่ โกลบิช อคาเดเมีย รองรับหลากหลายรูปแบบการใช้งาน โดยแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ หลักสูตรสำหรับวัยทำงาน หลักสูตรสำหรับเด็กวัย 7-14 ปี และหลักสูตรสำหรับธุรกิจ ที่สามารถปรับการเรียนการสอนได้ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละบริษัท

โกลบิช อคาเดเมีย มองถึงความต้องการของตลาด ที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์ม สำหรับคอร์สเรียนออนไลน์ เพื่อรองรับแต่ละหลักสูตร รวมถึงวางแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังโรงเรียนสอนพิเศษอื่น ๆ เพื่อยกระดับแพลตฟอร์มการเรียนการสอนของแต่ละที่ ได้อย่างลงตัว

Gittitouch Apisaksirijul
กิตติธัช อภิศักดิ์ศิริกุล

ปัจจุบัน โกลบิช อคาเดเมีย ได้ร่วมมือกับโรงเรียนสอนพิเศษภาษาจีนแห่งหนึ่ง เพื่อเปิดตัวคลาสภาษาจีนออนไลน์ และยังมีแผนจะขยายธุรกิจในประเทศเวียดนาม อีกด้วย

ทั้งนี้ ในช่วงเวลาที่บริษัทต้องเผชิญกับความท้าทาย หลายบริษัทย่อมมองหาลู่ทาง ที่จะปรับรูปแบบการทำงานและลดพื้นที่การทำงาน แต่ไม่ใช่ที่โกลบิช อคาเดเมีย จากเดิมที่มีจำนวน 35 คนเมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้า ปัจจุบันทีมงานเพิ่มขึ้นมาเป็น 120 คน

ด้วยจำนวนทีมงานที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทาง โกลบิช อคาเดเมีย ได้เล็งเห็นความสำคัญที่บริษัทจะต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดของพื้นที่ทำงานในทุกสถานการณ์ ออฟฟิศรูปแบบดั้งเดิมอาจไม่ตรงกับความต้องการต่อไป เนื่องจากไม่สามารถปรับขนาด เพื่อให้สอดคล้อง กับการเติบโตของบริษัทได้อย่างรวดเร็ว

ดังนั้น โกลบิช อคาเดเมีย จึงเลือกใช้พื้นที่ทำงาน ในรูปแบบ co-working space และ ตัดสินใจจัดตั้งสำนักงานที่ WeWork สปริง ทาวเวอร์ ราชเทวี เนื่องจากสามารถปรับเปลี่ยน ให้สอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจ ได้ทุกเวลา และยังช่วยสร้างประสบการณ์ทำงานที่ดี ให้กับพนักงานอีกด้วย

Globish Academia @ WeWork Spring Tower 4 m

นอกจากนี้ การวางแผนความต่อเนื่องทางธุรกิจ หรือ Business Continuity Planning กลายมาเป็นสิ่งที่แต่ละบริษัทต้องให้ความสำคัญ เพื่อวางแผนการทำงานในอนาคต โกลบิช อคาเดเมีย เล็งเห็นถึงบทบาทสำคัญของ WeWork ที่ให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้ รวมถึงการส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงาน ที่สร้างสรรค์ และสิ่งแวดล้อม ที่เอื้อหนุนต่อการทำงาน

ขณะเดียวกัน การออกแบบพื้นที่การทำงานของ WeWork ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทีมงานได้เป็นอย่างดี โดย สปริง ทาวเวอร์ มีการออกแบบพื้นที่ ให้เหมาะสมกับความต้องการ ในการใช้งานที่หลากหลาย พื้นที่ส่วนกลาง ที่เอื้อให้ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ สามารถมาทำงานร่วมกัน เพื่อระดมความคิดใหม่ ๆ รวมทั้งห้องประชุมในแบบต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดคลาสออนไลน์ได้เป็นอย่างดี

นายกิตติธัช คาดการณ์ว่า การเรียนการสอนผ่านช่องทางออนไลน์ จะเติบโตไปพร้อมกับ การพัฒนาของเทคโนโลยีดิจิทัลในประเทศไทย โดยในปัจจุบันลูกค้าของ โกลบิช อคาเดเมีย ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใหญ่อื่นๆ ในไทย

“แนวโน้มที่จะได้เห็นในอีก 5 ปีข้างหน้าก็คือ โครงข่ายอินเทอร์เน็ตที่ได้รับการพัฒนาจะช่วยทำให้การเรียนการสอนออนไลน์เป็นไปอย่างแพร่หลายและได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น”นายกิตติธัช กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo