“โมเดอร์นา-ไฟเซอร์” มีแนวโน้มยื่น อย.สหรัฐ ไฟเขียว วัคซีนโควิด-19 เร็วสุดปลายปีนี้ ด้านรัฐมนตรีสาธารณสุขชี้ เม.ย. ปีหน้า มีวัคซีนสำหรับอเมริกันทุกคน
โมเดอร์นา (Moderna) บริษัทเภสัชกรรมสัญชาติอเมริกัน ซึ่งเป็นบริษัทแรกที่เริ่มการทดลองทางคลินิกสำหรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสหรัฐ เสร็จสิ้นการรับสมัครผู้เข้าร่วมการทดลองขั้นสุดท้ายรวม 30,000 คนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (22 ต.ค. 63)
บริษัทซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ระบุว่าได้ดำเนินการลงทะเบียนผู้เข้าร่วมการทดลองทั้งสิ้น 30,000 คนอย่างเป็นทางการ สำหรับการทดลองระยะที่ 3 ซึ่งจะมีการฉีดวัคซีนจำนวน 2 เข็ม
บริษัทระบุว่า ผู้เข้าร่วมทั้ง 30,000 คน ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว และขณะนี้มีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่สองแล้ว 25,654 คน
เมื่อทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนครั้งที่ 2 แล้ว บริษัทจะใช้เวลาในการประเมินความปลอดภัย หากมีผลดีมากกว่าความเสี่ยง บริษัทจะยื่นขออนุญาตกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐ (FDA) เพื่อใช้งานวัคซีนนี้ในกรณีฉุกเฉิน
ปัจจุบัน วัคซีนโควิด-19 mRNA-1273 ของบริษัท โมเดอร์นา อยู่ระหว่างการทดสอบในศูนย์วิจัยทางคลินิกในสหรัฐ ประมาณ 89 แห่ง
สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH) ระบุว่า การทดลองครั้งนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อประเมินความปลอดภัยของวัคซีนดังกล่าวและตรวจสอบว่าวัคซีนนี้สามารถป้องกันโรคโควิด -19 ที่แสดงอาการได้หรือไม่หลังได้รับวัคซีน 2 ครั้ง
ส่วนเป้าหมายรองนั้น มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาว่าวัคซีนสามารถป้องกันการติดเชื้อโรคโควิด-19 ที่รุนแรง หรือการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ได้รับการยืนยันในห้องปฏิบัติการทั้งที่แสดงหรือไม่แสดงอาการของโรคได้หรือไม่
สถาบันฯ ระบุว่า การทดลองครั้งนี้ยังพยายามหาคำตอบว่า วัคซีน รายการนี้สามารถป้องกันการเสียชีวิตที่เกิดจากโรคโควิด-19 ได้หรือไม่ และการให้ยาเพียงโดสเดียวสามารถป้องกันโรคโควิด-19 ที่แสดงอาการได้หรือไม่ รวมถึงยังมีวัตถุประสงค์อื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้ โมเดอร์นา เป็นหนึ่งในผู้ที่ทำการทดลอง วัคซีนโควิด-19 ระยะที่ 3 จากทั้งหมดที่มีอยู่ 4 รายการทดลองของสหรัฐ ซึ่งแต่ละการทดลองล้วนมีผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคน
โมเดอร์นา และ ไฟเซอร์ (Pfizer) บริษัทเภสัชกรรมอีกแห่ง เริ่มการทดลองระยะที่ 3 เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม
ส่วนบริษัท แอสตราเซเนกา (AstraZeneca) เริ่มการทดลองในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ก่อนระงับการทดลองชั่วคราว 1 สัปดาห์ หลังพบผู้เข้าร่วมทดลองล้มป่วย ด้านบริษัท จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) เริ่มการทดลองเมื่อวันที่ 23 กันยายน ก่อนระงับชั่วคราวหลังจากเริ่มไปเพียงไม่ถึง 3 สัปดาห์ด้วยเหตุผลเดียวกัน
โดยการทดลองทั้ง 2 ที่ถูกระงับไว้ยังคงสามารถเดินหน้าต่อไปได้
มอนเซฟ สเลา หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ของโอเปอเรชัน วาร์ป สปีด (Operation Warp Speed) ซึ่งเป็นโครงการของทำเนียบขาวที่ออกแบบมาเพื่อลดระยะเวลาในการพัฒนา วัคซีน ป้องกันโรคโควิด-19 ระบุเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (21 ต.ค. 63) ว่า โมเดอร์นาและไฟเซอร์มีแนวโน้มที่จะเป็นบริษัทแรกๆ ที่จะยื่นขออนุมัติการใช้งานวัคซีนในกรณีฉุกเฉินจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ ซึ่งเร็วที่สุดอาจเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน หรือธันวาคม
สเลาระบุว่า หากมีวัคซีนได้รับการอนุมัติก่อนสิ้นปีนี้ จะมีการสำรองวัคซีนไว้ราว 20-40 ล้านโดส และพร้อมสำหรับการแจกจ่ายแก่ประชาชนในจำนวนจำกัด
อเล็กซ์ อาซาร์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ (HHS) ของสหรัฐฯ กล่าวว่า วัคซีน ป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จะมีพร้อมให้กับ “ชาวอเมริกันทุกคน” ภายในต้นเดือนเมษายน 2021
“ภายในสิ้นเดือนมกราคม (2021) วัคซีนจะมีเพียงพอสำหรับผู้สูงอายุทุกคน ตลอดจนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฉุกเฉิน … และภายในสิ้นเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน วัคซีนจะมีเพียงพอสำหรับชาวอเมริกันทุกคน” อาซาร์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส (CBS)
อาซาร์ระบุว่า กระทรวงฯ จะมี วัคซีน ที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) อย่างเพียงพอสำหรับฉีดให้แก่ “กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงที่สุด” ภายในสิ้นปีนี้
ที่มาสำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เกาะสมุยวุ่นหนัก! หญิงฝรั่งเศสป่วยโควิด ไทม์ไลน์ชี้ ติดเชื้อหลังกักตัว
- น้ำใจเพื่อนบ้าน ‘แกะล็อตแรก 4,000 ตัว’ จากมองโกเลียส่งถึงจีนหนุนสู้โควิด-19
- ‘New S-Curve’ โตสวนโควิด จ้างงานกว่า 100,000 ตำแหน่ง