COVID-19

ยกย่อง ‘อสม.’ ขึ้นชื่อระดับอินเตอร์ ดันเป็นหมอประจำตัว กันโควิด

ยกย่อง อสม. ขึ้นชื่อระดับอินเตอร์ เป็นผู้เสียสละ ดันขึ้นเป็นหมอประจำครอบครัว ประชาชนไว้ใจทำตามคำแนะนำ มั่นใจช่วยป้องกันโควิด-19 หลังเปิดประเทศ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่า กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดการประชุมวิชาการ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ภาคเหนือ พร้อมทั้ง ยกย่อง อสม. ขึ้นชื่อระดับอินเตอร์

ยกย่อง อสม.

ทั้งนี้ จากการที่ อสม. ช่วยทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรสาธารณสุข ในการเป็นด่านหน้า ช่วยเฝ้าระวัง คัดกรองโรคโควิด-19 ทำให้ควบคุม การแพร่ระบาดของโรคได้ ส่งผลให้ อสม. เป็นชื่ออินเตอร์ระดับโลก สร้างเกียรติยศ ชื่อเสียงให้ประเทศไทย ว่า มีระบบสาธารณสุขที่ดีที่สุด

“ประเทศใด ที่ได้รับการยกย่องเชื่อถือว่า มีระบบสาธารณสุขที่ดี ทำให้ได้รับความสนใจจากต่างชาติ ในการมาท่องเที่ยว ลงทุน และมาพำนักถิ่นฐาน”นายอนุทิน กล่าว

ดังนั้น จึงขอให้ อสม. รักษาเกียรติยศ ชื่อเสียงต้นทุนของความน่าเชื่อถือนี้ไว้ ไม่ใช่แค่เรื่องของความภาคภูมิใจ แต่ต้องการให้ อสม. เป็นที่เชื่อถือในประชาชน ในการเป็นหมอประจำครอบครัว เมื่อพูดเรื่องสุขภาพแล้วประชาชนทำตาม

ตัวอย่างเช่น การสร้างกระแส ให้คนสวมหน้ากาก การล้างมือ การเว้นระยะห่าง เพื่อต่อสู้กับโรคโควิด-19 เนื่องจากไทยยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่จำเป็นที่จะต้องเปิดประเทศมากขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเดินหน้าไปได้

อสม. 3

สำหรับการลดการกักตัวจาก 14 วันนั้น ขณะนี้คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ศึกษาถึงการเจาะเลือด ตรวจหาภูมิคุ้มกัน ซึ่งสามารถตรวจเจอได้หลังติดเชื้อ 4-5 วัน ว่า มีความแม่นยำ เช่นเดียวกับ การตรวจหาเชื้อตามมาตรฐาน ก็เป็นเหตุผลหนึ่ง ในการเสนอ ให้ลดการกักตัวจาก 14 วัน อาจเหลือเพียง 10 วัน หรือ 7 วัน

การลดเวลาการกักตัวลง จะเป็นการลดค่าใช้จ่าย จากการกักตัวลงได้ แต่ยังอยู่ระหว่างการศึกษา อย่างไรก็ตาม หากอนาคตมีวัคซีนโควิด-19 เชื่อมั่นว่า ประเทศไทย จะฟื้นตัวเร็วกว่าประเทศอื่น

ด้านนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้จัดประชุมวิชาการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ครั้งที่ 4 โดยจัดครบทุกพื้นที่ 4 ภาค

ในการประชุมทั้ง 4 ภาค ยังคงมีการเน้นตาม มาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรค การเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย เพื่อไม่ให้มีการรวมตัวเป็นจำนวนมาก สำหรับพื้นที่ภาคเหนือ มีจุดเด่น ในด้านภาษา วัฒนธรรม การสื่อสาร ที่เข้าใจกัน มีผลงานนวัตกรรม ที่โดดเด่น

ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังได้มอบรางวัลให้กับ อสม. ดีเด่น ระดับจังหวัด เขต ภาคภาคเหนือ และระดับชาติ 2563 พื้นที่ต้นแบบการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ ประจำปี 2563 ระดับเขตสุขภาพที่ 1, 2 และ3 เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับ อสม.

ยกย่อง อสม.

“การทำงานของ อสม. ในพื้นที่ได้เห็นผล เป็นที่ประจักษ์ คนในชุมชน เชื่อใจ มีภาพลักษณ์ที่ดี เป็นตัวแทนของชุมชน เป็นหมอของชุมชนอย่างแท้จริง”นายแพทย์ธเรศ กล่าว

จากการทำงานอย่างหนักของ อสม. ทำให้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ โครงการส่งเสริม และสนับสนุนการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 หรือ โควิด-19

ทั้งนี้ ได้อนุมัติค่าตอบแทนให้แก่ อสม. ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ตุลาคม-ธันวาคม 2563 โดยได้รับเดือนละ 500 บาท โดยมี อสม.ที่จะได้ประมาณ 1.05 ล้านคน วงเงินงบประมาณ 1,500 กว่าล้านบาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo