COVID-19

กดปุ่ม ‘อสม.’ เฝ้าระวังโควิดระลอก 2 จ่ายเงินพิเศษแล้ว 3,500 บาท

อสม. เฝ้าระวังโควิดระลอก 2 บิ๊กตู่ กดปุ่มรณรงค์เตรียมพร้อม เอ่บปากชม อสม. ทำงานโควิด จ่ายเงินสร้างขวัญกำลังใจแล้ว 3,500 บาท ยาหอมพร้อมอัดฉีดรอบใหม่

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เปิดการจัดงานรณรงค์เตรียมความพร้อม อสม. เฝ้าระวังโควิดระลอก 2 พร้อมชื่นชม อสม.ช่วยเฝ้าระวังป้องกันโรคโควิด-19

อสม. เฝ้าระวังโควิดระลอก 2

รัฐบาล ได้จัดสรรงบประมาณค่าตอบแทน เยียวยา และเสี่ยงภัยให้ อสม. 7 เดือน รวม 3,500 บาท เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ โดยโอนเข้าบัญชี อสม.วันนี้ (21 ก.ย.) พร้อมสนับสนุนต่อเนื่อง หากเกิดโควิด-19 ระบาด ระลอกที่ 2

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชม คุณนลินี หนูกุล หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ป้าดี” อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) จาก อ.ห้วยยอด จ. ตรัง

อสม. เฝ้าระวังโควิดระลอก 2

ทั้งนี้ ป้าดี ได้ปั๊มหัวใจช่วยชีวิตผู้ถูกไฟช็อตหมดสติ และตกลงจากที่สูง มีอาการสาหัส ช่วยปั๊มหัวใจตามหลักการที่ได้ผ่านการอบรมนานถึง 20 นาที จนอาการดีขึ้น และส่งต่อให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ นำส่งโรงพยาบาล จนอาการปลอดภัยในที่สุด

กรณี ป้าดี นับเป็นตัวอย่างของคนเก่ง คนดี ในระบบสาธารณสุขมูลฐาน ที่เข้มแข็งของไทย เป็นหนึ่งใน อสม.นับล้านคนทั่วประเทศ ที่ทุ่มเทช่วยกันดูแลชุมชนของตนเอง เป็นจิตอาสาช่วยระบบการแพทย์และสาธารณสุข ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการระบาดโรคโควิด-19 ในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบัน ประเทศไทยผ่านพ้นวิกฤติการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จนได้รับการยอมรับ ยกย่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

อสม. เฝ้าระวังโควิดระลอก 2

“คณะรัฐมนตรีเห็นถึงความเสียสละ การทำงานที่มีความเสี่ยงและทำงานต่อเนื่อง จึงมีมติสนับสนุนค่าตอบแทน ชดเชย เยียวยา และเสี่ยงภัยให้กับ อสม.เป็นระยะเวลา 7 เดือน และจะสนับสนุนอย่างต่อเนื่องหากเกิดการระบาดระลอกที่ 2 เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ”นายอนุทิน กล่าว

สำหรับการเตรียมความพร้อม เฝ้าระวัง ป้องกันการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกที่ 2 นอกจาก อสม. จะช่วยสอดส่องเฝ้าระวังแรงงาน หรือคนต่างถิ่น ที่เข้ามาในชุมชน แล้ว ยังช่วยดูแลสุขภาพจิตของเพื่อนบ้านในครัวเรือนที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันภาวะเครียด ซึมเศร้า หรือการฆ่าตัวตาย

นอกจากนี้ อสม.ต้องทำเป็นตัวอย่าง พัฒนาตนเองให้มีความรอบรู้ เป็นต้นแบบด้านพฤติกรรมสุขภาพ มีทักษะในการใช้แอปพลิเคชัน ร่วมสร้างตำบลวิถีชีวิตใหม่ให้ชุมชนร่วมกันจัดระบบเฝ้าระวังป้องกันโรคโควิด 19 ต่อเนื่อง สอดส่อง และพัฒนาศูนย์สาธารณสุขมูลฐานชุมชน (ศสมช.) เป็นศูนย์ประสานส่งต่อผู้ป่วย และส่งยา

อสม. เฝ้าระวังโควิดระลอก 2

หน้าที่สำคัญของ อสม. ยังเป็นหมอประจำบ้าน เป็นหมอประจำตัวคนแรก ของคนในชุมชน ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ “คนไทยทุกครอบครัว มี หมอประจำตัว 3 คน” เพื่อร่วมทำงานเป็นทีมสุขภาพที่เป็นระบบ มีพื้นที่เป้าหมาย ข้อมูลบุคคล และการสื่อสารที่ชัดเจน

ทั้งนี้ หมอประจำตัว 3 คน ที่จะดูแลประชาชน ได้แก่

  • หมอคนที่ 1 “อสม. หมอประจำบ้าน” ที่มี 1,054,729 คนทั่วประเทศ อสม. 1 คนรับผิดชอบ 8–15 หลังคาเรือน ดูแลสุขภาพพื้นฐาน รวมทั้งผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ร่วมกับเครือข่ายต่างๆ และอสม. จะต้องสร้าง อสค. (อาสาสมัครประจำครอบครัว) 1 คนเพื่อดูแลครอบครัวของตนเอง
  • หมอคนที่ 2 “หมอสาธารณสุข” 1 คน รับผิดชอบประชาชน 1,250 คนหรือ 1-3 หมู่บ้าน ทำงานเป็นทีมสหวิชาชีพ หรือหมอครอบครัวตาม พ.ร.บ.สุขภาพปฐมภูมิ ดูแลประชาชนร่วมกับ อสม.
  • หมอคนที่ 3 “แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว” จากโรงพยาบาลชุมชน 1 คนลงไปปฏิบัติงานในรพ.สต. ดูแลประชาชน 10,000 คน ร่วมกับหมอสาธารณสุขและอสม.หมอประจำบ้าน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo