ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (20 ส.ค.) เคลื่อนไหวในแดนลบ หลังจากหลังจากรายงานแสดงให้เห็นว่า เฟดกังวลถึงการระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้เศรษฐกิจเผชิญความเสี่ยงสูง พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ และจีนตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมไว้ในระดับเดิม
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 22,946.09 จุด ร่วงลง 164.52 จุด หรือ 0.71% ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงที่ 24,792.48 จุด ดิ่งลง 386.43 จุด หรือ 1.53% ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนที่ 3,391.52 จุด ลดลง 16.61 จุด หรือ 0.49% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ที่ 2,517.41 จุด ลบ 43.63 จุด หรือ 1.70%
ขณะที่ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดตลาดเมื่อวานนี้ (19 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ที่ 27,692.88 จุด ลดลง 85.19 จุด หรือ 0.31% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,374.85 จุด ลดลง 14.93 จุด หรือ 0.44% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 11,146.46 จุด ลดลง 64.38 จุด หรือ 0.57%
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความรู้สึกในตลาดกำลังมืดหม่นลง หลังจากที่รายงานการประชุมเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบาย ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 28-29 กรกฎาคมที่ผ่านมา หรือ เฟดมินนิท ระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า แนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงเผชิญ กับความไม่แน่นอนที่สูงมาก และคาดว่า ทิศทางเศรษฐกิจในวันข้างหน้า จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ ยังขึ้นอยู่กับว่า การกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งนั้น จะสามารถทำได้เป็นวงกว้าง และมีเสถียรภาพมากเพียงใด
กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า ในระยะใกล้นี้ วิกฤติด้านสาธารณสุข จะส่งผลกระทบอย่างหนัก ต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อ และวิกฤติดังกล่าวเป็นความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลาง
เฟดยังได้เน้นย้ำ ถึงความจำเป็นในการใช้มาตรการเยียวยาด้านการคลังรอบใหม่ โดยระบุว่า มาตรการเยียวยาด้านการคลังรอบใหม่มีความจำเป็นต่อการให้ความช่วยเหลือครัวเรือน ที่ได้รับความเดือดร้อน และมีความจำเป็นต่อการสนับสนุนเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง
วันนี้ ธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) ยังประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ไว้ที่ระดับ 3.85% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ไว้ที่ระดับ 4.65%
ธนาคารกลางจีนได้คงอัตราดอกเบี้ย LPR ทั้งประเภท 1 ปี และ 5 ปี ติดต่อกันเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว หลังเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปี ลง 0.2% สู่ระดับ 3.85% และลดดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ลง 0.1% สู่ระดับ 4.65% โดยมีเป้าหมายที่จะปรับลดต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทเอกชน และฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัวอีกครั้ง หลังจากเศรษฐกิจจีนหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี จากการระบาดของไวรัสโควิด-19
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘โควิด’ แผลงฤทธิ์ ทุบ ‘อาเบะโนมิกส์’ กระจาย ฉุด ‘เศรษฐกิจญี่ปุ่น’ หดตัวแรงสุด
- ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ทรุดหนักสุดรอบกว่า 70 ปี จีดีพีไตรมาส 2 หดตัว 32.9%
- ‘เศรษฐกิจสิงคโปร์’ อ่อนแอลงอีก หั่นคาดการณ์ GDP ใหม่ติดลบลึก 5-7%
