Business

ยอดขอ ‘ลงทุนไทย’ 6 เดือน 1.5 แสนล้าน อุตสาหกรรมการแพทย์พุ่ง 174%

ลงทุนไทย 6 เดือน บีโอไอเผยคำขอส่งเสริมกว่า 1.5 แสนล้าน อุตสาหกรรมการแพทย์เพิ่มขึ้นสูงสุด 174% จากมาตรการเร่งลงทุนรับโควิด-19

นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ภาวะการส่งเสริมการ ลงทุนไทย 6 เดือน ของปี 2563 (มกราคม-มิถุนายน) มียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 754 โครงการ เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 703 โครงการ

ลงทุนไทย

ขณะที่ มูลค่าเงินลงทุน จาก 754 โครงการรวม 158,890 ล้านบาท ลดลง 17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 190,330 ล้านบาท เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และในช่วงเดียวกันของปี 2562 มีโครงการขนาดใหญ่ ด้านพลังงานไฟฟ้า จากเชื้อเพลิงชีวมวล ยื่นขอรับการส่งเสริม แต่มีแนวโน้มดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปีนี้

สำหรับยอดขอรับการส่งเสริมส่วนใหญ่ อยู่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน 371 โครงการ มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 83,140 ล้านบาท คิดเป็น 52% ของมูลค่าคำขอรับการส่งเสริมทั้งหมด โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการแพทย์ ที่มีการยื่นขอรับการส่งเสริม เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทั้งจำนวนโครงการและเงินลงทุน

ทั้งนี้ ในอุตสาหกรรมการแพทย์ มีการยื่นขอรับการส่งเสริมรวม 52 โครงการ เพิ่มขึ้นถึง174% คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวม 13,070 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 123% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

การที่ยอดคำขอรับการส่งเสริม ในอุตสาหกรรมการแพทย์ ที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากมาตรการเร่งรัดการลงทุน ในอุตสาหกรรมการแพทย์ ที่บอร์ดบีโอไอเห็นชอบเมื่อเดือนเมษายน เพื่อสนับสนุนให้เกิดการลงทุนอย่างรวดเร็ว รองรับความต้องการใช้ ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ที่เพิ่มสูงขึ้น ภายใต้สถานการณ์ การระบาดของไวรัสโควิด-19

หากแยกตามอุตสาหกรรมเป้าหมาย พบว่า อุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเงินลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 28,250 ล้านบาท ตามด้วยอุตสาหกรรมเกษตรและแปรรูปอาหาร มูลค่า 15,300 ล้านบาท

ดวงใจ อัศวจินตจิตร์
ดวงใจ อัศวจินตจิตร์

อันดับสาม ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน มูลค่า 13,510 ล้านบาท อุตสาหกรรมการแพทย์ 13,070 ล้านบาท และอุตสาหกรรมปิโตรและเคมีภัณฑ์ 4,380 ล้านบาท

ด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในช่วง 6 เดือน มีโครงการยื่นขอรับการ ส่งเสริมการลงทุน จำนวน 459 โครงการ เพิ่มขึ้น 5% มีมูลค่าเงินลงทุนรวม 75,902 ล้านบาท ลดลง 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการแพร่ระบาด ของไวรัสโควิด-19

ด้านประเทศที่มีจำนวนโครงการ และมูลค่าเงินลงทุน ที่ยื่นขอรับการส่งเสริม มากที่สุด คือ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีจำนวนโครงการยื่นขอรับการส่งเสริม 99 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนสูงสุดอยู่ที่ 22,636 ล้านบาท คิดเป็น 30% ของมูลค่าเงินลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมด

ตามด้วยจีน จำนวน 95 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 17,461 ล้านบาท และ สิงคโปร์ จำนวน 55 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 10,624 ล้านบาท

จากสถิติภาวะการ ส่งเสริมการลงทุน ช่วง 6 เดือนของปีนี้ เป็นที่น่าสนใจว่า มีนักลงทุนรายใหม่ ให้ความสนใจ ขอรับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์ไม่ปกติ โดยพบว่า เป็นการยื่นขอรับการส่งเสริม ในโครงการใหม่ถึง 366 โครงการ คิดเป็น 49% ของจำนวนคำขอรับการส่งเสริมทั้งหมด มีเงินลงทุนรวม 42,520 ล้านบาท คิดเป็น 27% ของเงินลงทุนทั้งหมด

นอกจากนี้ คำขอรับการส่งเสริมในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เป็นการลงทุนในพื้นที่อีอีซี จำนวน 225 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 85,480 ล้านบาท

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo