COVID-19

เปิดชัด!! 5 มาตรการเข้ม Travel Bubble ก่อนชง ศบค.เคาะจันทร์นี้

มาตรการเข้ม Travel Bubble สธ. เคาะ 5 ขั้นตอนมาไทย ชัดเจน ป้องกันโควิด-19 เผยไทยเนื้อหอม ถกจับคู่จีน-ญี่ปุ่น คาด ศบค.เคาะวันจันทร์หน้า

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัด กระทรวงสาธารณสุข แถลงถึงแผนการเปิด Travel Bubble หรือการ จับคู่ประเทศ เพื่อเปิดการท่องเที่ยวระหว่างกัน ว่า ได้วาง มาตรการเข้ม Travel Bubble ในการเปิดรับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีการลงนามข้อตกลง หรือ เอ็มโอยู ร่วมกัน

มาตรการเข้ม Travel Bubble

สำหรับ 5 มาตรการเข้ม Travel Bubble ที่กำหนดไว้ จะประกอบด้วย มาตรการก่อนเดินทางจากประเทศต้นทาง, ระหว่างการเดินทาง, เมื่อมาถึงสนามบิน, การเดินทางและการเข้าพักในที่พัก และ มาตรการระหว่างการอยู่ในประเทศไทย โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • จากประเทศต้นทาง ที่ เปิด Travel Bubble กับไทย

– ตรวจคัดกรองโควิดก่อนขึ้นเครื่อง โดยประเทศไทยกำหนดว่าต้องตรวจภายใน 72 ชั่วโมง ก่อนขึ้นเครื่องบิน

– ต้องทำประกันที่ครอบคลุมการตรวจและรักษาโควิด-19

– ติดต่อสถานฑูต แจ้งรายละเอียด วัตถุประสงค์การเดินทาง

– ต้องอยู่ในประเทศที่จับคู่ 14 วันก่อนเดินทางต่อมาประเทศไทย

– มีหนังสือรับรอง หรือหนังสือเชิญจากหน่วยงาน

  • ระหว่างการเดินทาง โดยเฉพาะเครื่องบิน

– ใส่หน้ากากตลอดเวลา

– ปฏิบัติตามมาตรฐานของแต่ละสายการบิน เช่น การตรวจหาเชื้อโควิด – 19 บนเครื่องบิน

– ลดการพูดคุยกัน ระหว่างผู้โดยสาร ลูกเรือ

– หากมีอาการ ต้องแยกโซนที่นั่ง

มาตรการเข้ม Travel Bubble

  • เมื่อเดินทางถึงสนามบิน

– กำหนดสนามบินขึ้นลง สำหรับผู้โดยสารที่ จับคู่ประเทศ และจัดแยกโซน โดยไม่ปะปนกับผู้โดยสารในประเทศ

– มีตรวจคัดกรองอีกครั้งที่สนามบิน ซึ่งต้องมีระบบการตรวจที่รวดเร็ว และได้ครั้งละจำนวนมาก

– ต้องติดตั้งแอปพลิเคชั่น เพื่อแทรกกิ้งนักเดินทางได้ชัดเจน และตลอดเวลา ห้ามปิดหรือลบแอปทิ้ง หากไม่มีโทรศัพท์มือถือ อาจจัดระบบให้เช่า หรือแพคเกจซื้อมือถือราคาถูก

  • ที่พัก

– ระบุที่พักชัดเจน

– ที่พักมีมาตรการควบคุมโควิด

– โรงแรมควรแยกชั้นสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่ เปิด Travel Bubble กับไทย

– ตกลงกับโรงพยาบาลของรัฐ กรณีพบการเจ็บป่วย

  • ระหว่างอยู่ในประเทศไทย

– แทรกกิ้งได้ตลอดเวลาที่อยู่ในประเทศไทย

– แนะนำให้ดูแลตัวเอง หากพบอาการต้องไปพบแพทย์ทันที

ศุภกิจ
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์

สำหรับความคืบหน้าเจรจา การจับคู่ประเทศ นั้น ปัจจุบันมีหลายประเทศที่ติดต่อเข้ามา เช่น จีน และ ญี่ปุ่น ที่ส่งหนังสือพร้อมรายละเอียดขั้นตอน มาให้ประเทศไทยพิจารณาแล้ว โดยภาพรวมมีมาตรการคล้ายคลึงกัน ซึ่งตามหลักการแล้ว จะนำข้อเสนอของแต่ละประเทศมาพิจารณา เจรจา โดยต้องทำเอ็มโอยู ร่วมกันและผ่านการพิจารณาของ ที่ประชุม คณะรัฐมนตรี จึงจะดำเนินการได้

ทั้งนี้ สธ. จะรวบรวมข้อมูล และนำเสนอรายละเอียด เข้า ที่ประชุม ศบค. ในวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายนนี้ เพื่อให้ความเห็นชอบ จากนั้นจึงเสนอเข้าที่ประชุม ครม. ต่อไป

อย่างไรก็ตาม โดยหลักการแล้ว ประเทศไทย จะเลือก จับคู่ประเทศ กับประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ จากการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ก่อน เช่น จีน ที่จะพิจารณาเป็นแต่ละเมือง, ญี่ปุ่น, เกาหลี, ไต้หวัน, ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ เป็นต้น

สิ่งสำคัญคือ อยากให้เข้าใจว่า การจับคู่ประเทศ เปิด Travel Bubble จะทำให้ไทยมี รายได้จากการท่องเที่ยวกลับมา และต้องยอมรับว่า การจะทำให้ ผู้ป่วยโควิด -19 ในไทยเป็นศูนย์ ไปเรื่อยๆ มีราคาต้องจ่าย มีต้นทุน จากมาตรการที่เมื่อเข้มมาก ความสูญเสียทางเศรษฐกิจสังคมก็มากขึ้น ตามไปด้วย แต่ถ้าปล่อยหรือเปิดประเทศ เมื่อเกิดกาแพร่ระบาดมาก ก็จะกระทบเศรษฐกิจเช่นกัน ดังนั้น จึงต้องหาจุดที่ได้ประโยชน์สูงสุด คือ ยอมให้มีคนไข้จำนวนหนึ่งที่สามารถจัดการได้ และเศรษฐกิจเดินไปได้ด้วย” นพ.ศุภกิจ กล่าว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo