POLITICS-GENERAL

2 ความเชื่อผิดๆ ‘โรคความดันโลหิตสูง’

ชี้ 2 ประเด็นเข้าใจผิด “โรคความดันโลหิตสูง”  เมื่อไม่มีอาการผิดปกติแสดงว่า ควบคุมโรคได้ดี -ไม่ควรรับประทานยาต่อเนื่อง เป็นเวลานาน เนื่องจากจะทำให้ตับและไตเสื่อม ย้ำเป็นความเชื่อที่ผิด!

being alone 513526 640

ผู้สูงอายุส่วนใหญ่เป็น “โรคความดันโลหิตสูง” แต่ไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ว่าเกิดจากอะไรแน่ เรื่องนี้ นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ให้คำตอบว่า

  • 95% โรคความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุ จะตรวจไม่พบสาเหตุ แต่อาจมีปัจจัยเสี่ยง คือ ความอ้วน ภาวะไขมันในเลือดสูง สูบบุหรี่ ดื่มสุรา รับประทานอาหารเค็ม ไม่ออกกำลังกาย หรือบุคคลในครอบครัว มีประวัติเป็นโรคความดันโลหิตสูง
  • 5% มีสาเหตุจากโรคอื่นๆ เช่น โรคไต โรคต่อมไร้ท่อ โรคระบบประสาท การได้รับสารเคมีหรือยาบางชนิด
276655
นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

โรคความดันโลหิตสูงเป็นภาวะที่ค่าความดันโลหิตขณะหัวใจบีบตัว (ค่าตัวบน) มีค่าเท่ากับหรือมากกว่า 140 มิลลิเมตรปรอท และค่าความดันโลหิตขณะหัวใจคลายตัว(ค่าตัวล่าง) มีค่าเท่ากับหรือมากกว่า 90 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งส่วนใหญ่มักจะไม่มีอาการผิดปกติ แต่ก็ก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้ในระยะยาว เช่นไตเสื่อม โรคหัวใจ และ โรคหลอดเลือดสมอง

อาการเบื้องต้นที่พบบ่อย เช่น อาการปวดมึนศีรษะ มักปวดตื้อบริเวณท้ายทอยช่วงเช้า หลังตื่นนอน ถ้าความดันโลหิตสูงรุนแรงอาจมีอาการ ปวดศีรษะรุนแรง คลื่นไส้ อาเจียน ตามัว เหนื่อยง่าย และอาจมีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วย

นพ.สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การรักษาโรคความดันโลหิตสูงในผู้สูงอายุ มีวิธี ดังนี้

1. รักษาด้วยการไม่ใช้ยา หากทำแล้ว ความดันโลหิตยังคงสูงอยู่ ถึงจะใช้วิธีการรักษาด้วยยา ประกอบด้วย

-ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในการรับประทานอาหาร งดอาหารรสเค็ม รับประทานผัก ผลไม้ ดื่มน้ำให้พอเพียง และบริโภคอาหารที่มีไขมันต่ำ

-ออกกำลังกายเป็นประจำ

-ควบคุมน้ำหนัก

-งดสูบบุหรี่ และงดดื่มแอลกอฮอล์

-ฝึกสมาธิ

-ไม่เครียด ทำจิตใจให้ผ่องใส

-นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

2. รักษาด้วยการใช้ยา ผู้ป่วยไม่ควรหยุดยา หรือปรับยาด้วยตนเอง และยาลดความดันโลหิต จัดเป็นกลุ่มยาที่มีความปลอดภัยสูง สามารถใช้ต่อเนื่องได้เป็นเวลานาน หรือตลอดชีวิต ผู้ป่วยจึงไม่ควรกลัวการรับประทานยาต่อเนื่อง

ในทางกลับกันผู้ป่วยหลายรายเข้าใจผิดว่า การกินยาต่อเนื่อง จะเป็นอันตรายต่อร่างกายเช่น ทำให้ตับ หรือไตเสื่อม จึงหยุดยาเองเมื่อไม่มีอาการผิดปกติ โดยไม่รู้ตัวว่ามีความดันโลหิตสูง หลังหยุดยา เนื่องจากไม่มีอาการผิดปกติ จนกระทั่งเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต หัวใจวาย ไตวาย

ผู้ป่วยจึงไม่ควรหยุดยาเอง ยกเว้นเมื่อรับประทานยาแล้ว มีความดันโลหิตต่ำ อาการมึนงง หน้ามืด โดยเฉพาะเวลาลุกขึ้นนั่งหรือยืน ควรหยุดยาแล้วไปพบแพทย์ทันที

Avatar photo