สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิดในนิวยอร์กล่าสุดอยู่ที่ 350,951 คนแล้ว เสียชีวิต 21,565 คน
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก รายงานสถานการณ์ล่าสุดของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ในรัฐและนครนิวยอร์ก ตามที่ประมวลจากแหล่งข่าวต่าง ๆ ดังนี้
1. การแถลงข่าวของนาย Andrew Cuomo ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ซึ่งสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1.1 นับจนถึง 15 พฤษภาคม 2563 เวลา 16.00 น. (เวลาสหรัฐ) รัฐ/ นครนิวยอร์ก พบผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จำนวน 350,951 คน โดยแบ่งเป็นในรัฐนิวยอร์ก จำนวน 155,479 คน และนครนิวยอร์ก จำนวน 195,472 คน ซึ่งสูงที่สุดในสหรัฐฯ และเสียชีวิตจำนวน 21,565 คน
1.2 ขณะนี้ มีเพียง 5 regions ที่สามารถเริ่ม phase 1 of reopening ในวันนี้ (15 พ.ค.) ได้แก่ Central New York, , North Country, Finger Lake, Southern Tier และ Mohawk Valley โดยประเภทธุรกิจที่เริ่มดำเนินการได้ ได้แก่ (1) การก่อสร้าง (2) เกษตรกรรม ป่าไม้ ประมง และล่าสัตว์ (3) ค้าปลีก เฉพาะ curbside หรือ in-store pick up (4) การผลิต และ (5) การค้าส่ง (wholesale trade) ทั้งนี้ นาย Cuomo ได้ลงนามในคำสั่ง Executive Order ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2563 ขยายการดำเนินมาตรการ ‘New York on PAUSE’ ไปจนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม 2563 เวลา 23.59 น. สำหรับ region ที่ยังไม่สามารถบรรลุหลักเกณฑ์ 7 ข้อของการเปิดเศรษฐกิจได้ รวมนครนิวยอร์ก และตามคำสั่งนี้ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐทำให้คำสั่ง Executive Order ฉบับก่อนของผู้ว่าการรัฐยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปและขยายไปถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2563
1.3 อย่างไรก็ดี นาย Cuomo เตือนว่า โดยที่ทั้ง 5 regions เริ่มเปิดเศรษฐกิจ จึงมีความเสี่ยงที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 จะเพิ่มขึ้น จึงต้องมีมาตรการเฝ้าระวังและควบคุม ซึ่งหากเกิดกรณีนั้น ๆ region ก็จะต้องลดกิจกรรมลง หรือกลับมา lock down
1.4 รัฐนิวยอร์กจะร่วมมือกับรัฐนิวเจอร์ซีย์ รัฐคอนเนตติคัท และรัฐเดลาแวร์ เพื่อเปิดชายหาดในช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์ที่ต่อเนื่องกับ Memorial Day (25 พ.ค.) โดยแต่ละรัฐจะมีข้อจำกัดเฉพาะที่แตกต่างกัน ในส่วนของรัฐนิวยอร์ก (1) ห้ามมีคนเกิน 50% ของพื้นที่ หรือกิจกรรมกลุ่ม (2) พื้นที่ปิกนิกและสนามเด็กเล็กยังคงปิด (3) บังคับใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมทั้งต่อกลุ่มลูกจ้างของชายหาดและผู้มาเยือน และลูกจ้างจะต้องสวมใส่หน้ากากตลอดเวลา และ (4) ผู้มาเยือนจะต้องสวมใส่หน้ากากทุกครั้งเมื่อไม่สามารถรักษาระยะห่างจากบุคคลอื่นในพื้นที่ชายหาดได้
2. พัฒนาการอื่น
นครนิวยอร์ก เมื่อ 15 พฤษภาคม 2563 นาย Bill de Blasio นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์กแถลงข่าว ดังนี้ (1) พบผู้ป่วยเด็กหรือผู้มีอายุน้อย จำนวน 110 คน ที่มีอาการ ‘multi-system inflammatory syndrome’ ที่เชื่อมโยงกับการติดเชื้อไวรัส COVID-19 โดย 54% ของผู้ป่วยจำนวนนี้ พบว่าติดเชื้อไวรัส COVID-19 หรือมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัส COVID-19 (2) จะดำเนินมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมในช่วงสุดสัปดาห์ที่อากาศอุ่นขึ้น โดยจะใช้กำลังจากเจ้าหน้าที่ NYPD และอาสาสมัครเฝ้าระวังพื้นที่ที่เสี่ยงจะเกิดความแออัด/ หนาแน่นของประชาชน (3) อยู่ระหว่างการฝึกอบรม contact tracers ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม 2563 นครนิวยอร์กจะมี contact tracers จำนวน 1,000 คน และเพิ่มขึ้นเป็น 2,500 คนในเดือนมิถุนายน 2563
เขตอาณา
2.2 เมื่อ 15 พฤษภาคม 2563 นาย Phil Scott ผู้ว่าการรัฐเวอร์มอนต์แถลงข่าวว่าจะขยายสภาวะ state of emergency ไปจนถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2563 อย่างไรก็ดี นาย Scott ได้ผ่อนคลายคำสั่ง ‘stay at home’ เพื่อให้สอดคล้องกับภาคส่วนและกิจกรรมที่อนุญาตให้เปิดดำเนินการตาม restart strategy
2.3 เมื่อ 15 พฤษภาคม 2563 นาย Phil Murphy ผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์แถลงข่าวเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ปธน. ข้างต้น (primary election) ในวันที่ 7 ก.ค. 2563 ว่าจะเน้นการลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์เป็นหลัก โดยผู้ลงคะแนนเสียงที่สังกัดพรรคเดโมแครตหรือรีพับลิกันจะได้รับบัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทางไปรษณีย์ ขณะที่ผู้ลงคะแนนเสียงที่ไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองและอื่น ๆ จะสามารถลงคะแนนเสียงผ่าน mail application ทั้งนี้ การลงคะแนนเสียงในสถานที่เลือกตั้งของแต่ละ county จะลดลงเหลือกึ่งหนึ่งจากปกติ และแต่ละ municipality จะต้องจัดสถานที่เลือกตั้ง จำนวน 1 แห่ง โดยเน้นการรักษาระยะห่างทางสังคม และเครื่องลงคะแนนเสียงแบบสัมผัสหน้าจอจะต้องถูกทำความสะอาดในช่วงรอยต่อระหว่างผู้ลงคะแนนเสียงแต่ละคน
3. สกญ. ขอนำส่ง infographic สรุปสถานการณ์การติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในเขตอาณาของ สกญ. สถานะ 15 พฤษภาคม 2563 เวลา 16.00 น. มา ณ ที่นี้
- ยอดติดเชื้อโควิดในนิวยอร์กล่าสุดอยู่ที่ 3.45 แสนคน เร่งหาสาเหตุเด็กป่วย!!
- ‘ผู้ว่ารัฐนิวยอร์ก’ หนุนสวมหน้ากากอนามัย ‘ให้เกียรติแพทย์-พยาบาลผู้ล่วงลับ’
- นิวยอร์กเร่งสอบอาการเด็ก 100 คนป่วยโรคลึกลับ! คาดเชื่อมโยง ‘โควิด’
