นายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ผู้นำสเปน ประกาศ การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศถึงจุดสูงสุดแล้ว เตรียมเริ่มต้นกระบวนการผ่อนคลายมาตรการ “ล็อกดาวน์” ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน พร้อมขอรัฐสภาอนุมัติ ขยายการบังคับใช้ภาวะฉุกเฉินไปจนถึงวันที่ 26 เมษายนนี้
“เรามาถึงจุดสูงสุดของการระบาดแล้ว และตอนนี้กำลังเริ่มต้นการผ่อนคลาย” นายซานเชซ แถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา ที่เกือบจะว่างเปล่า เนื่องจากสมาชิกสภานิติบัญญัติส่วนใหญ่ทำงานจากบ้าน
อย่างไรก็ดี เขาเตือนว่า การกลับสู่การใช้ชีวิตตามปกติของชาวสเปนนั้น จะต้องเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของวิกฤติสุขภาพที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้
“เรากำลังเผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหญ่สุดต่อระบบสาธารณสุขของโลก นับแต่เกิดการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สเปน เมื่อปี 2461” นายซานเชซกล่าว พร้อมอธิบายว่า การที่จะกลับสู่กิจกรรมนั้น จะต้องดำเนินการไปทีละขั้นตอนเท่านั้น
“สิ่งสุดท้ายที่เราจะยอมให้เกิดขึ้นได้ คือการก้าวถอยหลัง เพราะมันจะเป็นยิ่งกว่าการล้มเหลว แต่จะเป็นการฟื้นตัวของไวรัส”
นายกรัฐมนตรีสเปน ยังบอกต่อสมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านด้วยว่า รัฐบาลของเขากำลังดำเนินการไปตามแผนการ ที่จะทำให้ประเทศกลับมาสู่ภาวะปกติ “อย่างช้าๆ” แต่ก็เตือนว่า ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าชาวสเปนจะกลับไปสู่ภาวะปกติที่อยู่ในรูปแบบใด
ทั้งนี้ เมื่อไม่กี่วันที่่ผ่านมา สเปนกลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ต่อจากสหรัฐ โดยล่าสุด สเปนมียอดสะสมผู้ติดเชื้อมากถึง 152,446 คนแล้ว โดยมียอดสะสมผู้เสียชีวิตล่าสุดที่ 15,238 ราย
- ทั่วโลกทุ่มเม็ดเงินมหาศาล ประคองเศรษฐกิจสู้วิกฤติโควิด!!
- ‘สี จิ้นผิง’ หวั่น ‘โควิด-19’ ระบาดรอบ 2 สั่งคุมเข้มกลุ่ม ‘ไม่แสดงอาการ-กลับจากนอก’
- ทั่วโลกดับเกือบ 9 หมื่นราย อิตาลียังเสียชีวิต ‘โควิด-19’ สูงสุด 17,699 ราย