COVID-19

ปิดเพิ่ม! ‘กะรน-ราไวย์’ ภูเก็ตขยายพื้นที่ ‘ล็อกดาวน์’ สกัดโควิด-19

ภูเก็ต ออกประกาศเพิ่ม ปิดกะรน-ราไวย์ พื้นที่เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ห้ามเข้า-ออก ตั้งจุดคัดกรองเข้ม ตั้งแต่ 6 เมษายนเป็นต้นไป

นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้ลงนามคำสั่งจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 รวม 2 คำสั่ง เรื่องปิดสถานที่และกำหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด19พื้นที่ตำบลกะรน และพื้นที่ตำบลราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต

กะรน

 

ทั้งนี้ คำสั่ง จังหวัดภูเก็ต ที่ 1825/2563 สาระสำคัญ ระบุว่า จากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดภูเก็ตพบว่ายังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับ ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนา2019 ตำบลกะรนได้เสนอมาตรการแนวทางการแก้ไขปัญหา

ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตจึงมีมติที่ประชุมครั้งที่ 16/2563 เนื่องจากพื้นที่ตำบลกะรน เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อป้องกันมิให้โรคนั้นแพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อมไปยังผู้อื่นจึงห้ามประชาชนเข้าไปหรือออกจากพื้นที่ดังกล่าว ปิดสถานที่จอดรถรับส่งผู้โดยสารของรถรับจ้างสาธารณะวิ่งรับส่งผู้โดยสาร กำหนดจุดตรวจคัดกรองบริเวณจุดชมวิว 3อ่าว , บริเวณปากทางเข้าหาดฟรีด้อม, บริเวณเนินกะตะ(ก่อนถึงแยกโคกโตนด)

นอกจากนี้ ยังให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร่วมกับอำเภอและเทศบาลตำบลกะรนจัดบุคลากรเข้าตรวจวัดไข้ประชาชนในพื้นที่ทุกคน หากพบผู้ใดมีอาการเข้าข่ายที่ต้องเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะต้องถูกส่งไปแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการยังสถานที่ที่จังหวัดกำหนด ให้เทศบาลตำบลกะรน ทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ ถนน บ้านพักอาศัย ร้านค้าในเขตพื้นที่ตำบลกะรน โดยการฉีดฆ่าเชื้อทั้งหมดทุกหลังคาเรือน

ภัคพงศ์ ทวิพัฒน์1
ภัคพงศ์ ทวิพัฒน์

ขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่มิให้ออกนอกเคหสถานหรือบริเวณสถานที่พำนักของตนเพื่อป้องกันตนเองจากการรับเชื้อและอาจเป็นพาหะในการกระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด19ไปยังบุคคลอื่น หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา52แห่งพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน1ปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่1) ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ขณะที่คำสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ 1826/2563 สาระสำคัญ ระบุว่า จากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดภูเก็ต พบว่า ยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับเทศบาลตำบลราไวย์มีหนังสือเสนอมาตรการแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าว ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตมีมติที่ประชุมครั้งที่ 16/2563 เนื่องจากพื้นที่ตำบลราไวย์ เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อป้องกันมิให้โรคนั้นแพร่ทางตรงหรือทางอ้อมไปยังผู้อื่น จึงห้ามประชาชนเข้าไปหรือออกจากพื้นที่ดังกล่าว กำหนดจุดตรวจคัดกรองโรค บริเวณรอยต่อตำบลกะรน-ตำบลราไวย์, บริเวณหน้าห้างโลตัสสาขาราไวย์

ราไวย์

ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตร่วมกับอำเภอและเทศบาลตำบลราไวย์ จัดบุคลากรเข้าไปตรวจวัดไข้ประชาชนในพื้นที่ทุกคน หากพบผู้ใดมีอาการเข้าข่ายเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะต้องถูกส่งไปแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการยังสถานที่กำหนด ให้เทศบาลตำบลราไวย์ทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ ถนน บ้านพักอาศัย ร้านค้าในเขตพื้นที่โดยการฉีดฆ่าเชื้อทั้งหมดทุกหลังคาเรือน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่มิให้ออกนอกเคหสถานหรือบริเวณสถานที่พำนักของตนเพื่อป้องกันตนเองจากการรับเชื้อและอาจเป็นพาหะในการกระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปยังบุคคลอื่น หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฉบับนี้ อาจเป็นความผิดตามมาตรา52 แห่งพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548 ตามข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่1) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน 2563 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

Avatar photo