World News

ความหวังทั่วโลกอัดฉีดศก. พยุง ‘หุ้นเอเชีย’ ดัน ‘น้ำมัน’ พุ่ง 6%

ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (10 มี.ค.) ยังเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ หลังจากที่หุ้นสหรัฐ เมื่อวานนี้ (9 มี.ค.) ยังร่วงลงอย่างต่อเนื่อง แต่ตลาดยังได้แรงหนุนบางส่วน จากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลาง และรัฐบาลทั่วโลกจะร่วมมือกันอัดฉีด เพื่อบรรเทาภาวะตื่นตระหนกในตลาด ที่ทำให้เกิดการเทขายหุ้นอย่างหนัก

tok

ดัชนีนิกเคอิ ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 19,398.58 จุด ร่วงลง 300.18 จุด หรือ 1.52% ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกง ที่ 25,103.89 จุด บวก 63.43 จุด หรือ 0.25% ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนที่ 2,929.61 จุด ลดลง 13.68 จุด หรือ 0.46% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ที่ 2,808.40 จุด เพิ่มขึ้น 26.03 จุด หรือ 0.94%

ทางด้านดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ที่ 23,851.02 จุด ดิ่งลง 2,013.76 จุด หรือ 7.79% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 2,746.56 จุด ลดลง 225.81 จุด หรือ 7.60% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 7,950.68 จุด ลดลง 624.94 จุด หรือ 7.29%

ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีของตลาดสหรัฐ ทำสถิติดิ่งลงในวันเดียวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินโลกในปี 2551 ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่เป็นไปอย่างตื่นตระหนก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก และการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย

นักวิเคราะห์ชี้ว่า การพูดถึงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการคลัง และการเงิน เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ที่เริ่มมีมากขึ้น ทำให้นักลงทุนเกิดความหวังถึงการออกมาตรการสำคัญที่จะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ

ในวันนี้ ตามเวลาในสหรัฐ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ยังเตรียมแถลงข่าว ในเรื่องร่างมาตรการช่วยเศรษฐกิจ และมีรายงานข่าวด้วยว่า นายสตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้ผลักดันให้รัฐบาลอเมริกันเคลื่อนไหวอย่างมากในเรื่องนี้

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ ซื้อขายในตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ ทะยานขึ้นมากกว่า 6% ท่ามกลางความหวังว่า การทำสงครามราคาระหว่างซาอุดีอาระเบีย และรัสเซีย 2 ชาติผู้ผลิตรายใหญ่สุดของโลก ที่จุดชนวนให้เกิดการเทขายครั้งใหญ่สุดในรอบ 29 ปีนั้น จะคงอยู่ไม่นานนัก

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เคลื่อนไหวล่าสุด ขยับขึ้นมา 2.31 ดอลลาร์ หรือ 6.7% เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 36.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท เพิ่มขึ้น 1.79 ดอลลาร์ หรือ 5.8% มาอยู่ที่ 32.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเมื่อวานนี้ราคาร่วงไปถึง 25%

ส่วนราคาทองคำเคลื่อนไหวล่าสุดที่ระดับ 1,667.38 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ท่ามกลางกระแสที่ว่า นักลงทุนบางส่วนกำลังเทขาย เพื่อระดมเงินสด รับมือกับการดิ่งลงของตลาดหุ้น และสินทรัพย์อื่นๆ

Avatar photo