ในงานสัมมนาด้านเทคโนโลยีประจำปี Blognone Tomorrow: Human & Machine ที่จัดขึ้นจัดขึ้นภายใต้ธีม ‘Human & Machine’ ที่เน้นการทำงานร่วมกันระหว่าง มนุษย์ เทคโนโลยี และเครื่องจักร ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดในยุคอุตสาหกรรม 4.0 ค่ายรถยนต์อย่าง นิสสัน นำโดย ราเมช นาราสิมัน ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมบรรยายพิเศษในหัวข้อ “นิสสัน กับวิสัยทัศน์การขับขี่แห่งโลกอนาคต”
นายราเมช นาราสิมัน ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ความก้าวล้ำของเทคโนโลยีที่มีความสามารถอันโดดเด่นในการช่วยจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นจริงและสร้างประโยชน์แก่ผู้คนเป็นจำนวนมาก ขณะที่นิสสันเอง มีเป้าหมายที่จะถ่ายทอดนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้ผู้คนมีวิถีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
สำหรับเทรนด์ที่จะช่วยสนับสนุนโรดแมปการพัฒนานวัตกรรมการขับขี่แห่งโลกอนาคตในประเทศไทย ซี่งรวมถึงการใช้รถยนต์เป็นแหล่งพลังงานทดแทน บทบาทของมนุษย์ในระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ และเทคโนโลยีการขับขี่แห่งโลกอนาคตอีกด้วย โดยเทรนด์ต่าง ๆ ประกอบไปด้วย
• ยานพาหนะในรูปแบบของแหล่งพลังงานเคลื่อนที่: ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยแก้ปัญหาความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นได้มากกว่ายานพาหนะเพียงเพื่อการสัญจร แต่ยังสามารถจ่ายไฟให้กับบ้าน หรือคืนกลับไปในระบบกริดพลังงาน
• มนุษย์ยังคงต้องเป็นศูนย์กลางในการขับขี่และสามารถเชื่อมโยงเทคโนโลยีแห่งอนาคตได้อย่างไร้รอยต่อ: การพัฒนายานยนต์แห่งโลกอนาคต ต้องทำให้ผู้คนเป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยี โดยไม่ได้เน้นการสร้างเทคโนโลยีเพื่อแทนที่ผู้คน แต่สร้างสรรค์เทคโนโลยีเพื่อทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้น พร้อมเปลี่ยนแปลงวิถีการขับขี่ให้กับสังคม
• เทคโนโลยีล้ำสมัยแห่งโลกอนาคต: เทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง เทคโนโลยี Invisible-to-Visible (I2V) ที่ผสานรวมโลกความเป็นจริงและโลกเสมือนจริงเข้าไว้ด้วยกัน และอีกหนึ่งไฮไลท์ของนิสสันอย่าง เทคโนโลยี Brain-to-Vehicle (B2V) ที่นำคลื่นสมองของผู้ขับมาวิเคราะห์ด้วยระบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้ประสบการณ์ของของผู้ขับขี่เป็นไปอย่างไร้รอยต่อมากขึ้นนอกต่
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การใช้งานแบตเตอรี่ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ของนิสสัน ที่นอกจากจะสามารถจ่ายพลังงานในการชาร์จให้แก่รถพลังงานไฟฟ้าแล้ว ตัวแบตเตอรี่เองยังสามารถจ่ายพลังงานกลับคืนสู่ บ้าน สำนักงาน สนามกีฬา หรือแม้แต่ระบบกริดพลังงานได้อีกด้วย และทุกวันนี้ นิสสันยังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในการพัฒนานวัตกรรมผ่านนิสสัน อินเทลลิเจ้นท์ โมบิลิตี้ เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ในอนาคต
