Economics

‘ศักดิ์สยาม’ มอบโจทย์แก้ ‘ค่าโง่ทางด่วน’ เพิ่ม สั่งดูความจำเป็น ‘ทางด่วน 2 ชั้น’

“ศักดิ์สยาม” มอบโจทย์แก้ “ค่าโง่ทางด่วน” เพิ่ม สั่งดูความจำเป็นทางด่วน 2 ชั้น หาวิธีลดค่าผ่านทางให้ประชาชน คณะทำงานขอเวลา 1 สัปดาห์สรุปตัวเลขเสนอใหม่

S 27222139

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเรื่องทางพิเศษ (ทางด่วน) ระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ว่า ล่าสุดคณะทำงานแก้ไขปัญหาข้อพิพาท ที่มีนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน ได้ขอขยายระยะเวลาการทำงานออกไปอีก 1 สัปดาห์ เพื่อสรุปตัวเลขและข้อมูลต่างๆ ให้ชัดเจน จากนั้นจะนำเสนอให้พิจารณาอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้คณะทำงานฯ ไปพิจารณาสัญญาและเงื่อนไขอื่นๆ เพิ่มเติมว่า การทางพิเศษฯ จำเป็นต้องมอบหมายให้ BEM เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างทางด่วน 2 ชั้น (Double Deck) จากด่านประชาชื่น – อโศก ระยะทาง 17 กิโลเมตร เพื่อแก้ไขปัญหาหรือไม่

ถ้ามีหรือไม่มีโครงการทางด่วน 2 ชั้น จะส่งผลอย่างไรต่อตัวเลขทั้งหมด เพราะการก่อสร้างทางด่วน 2 ชั้นจะส่งผลให้ตัวเลขความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจของโครงการ (EIRR) มีระยะเวลายาวนานขึ้นและต้องขยายอายุสัมปทานให้ BEM เป็นเวลาเวลานาน

นายศักดิ์สยามยังขอให้คณะทำงานฯ นำข้อมูลและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้า สภาผู้แทนราษฎรมาพิจารณาด้วย รวมถึงจะนำข้อพิพาทเรื่องทางด่วน เสนอให้ที่ประชุมแก้ไขปัญหาค่าโง่โฮปเวลล์ร่วมพิจารณาเพิ่มเติม

S 90054663

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (27 ส.ค.) คณะทำงานฯ ได้รายงานแนวทางแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเรื่องทางด่วนทั้ง 3 แนวทางให้นายศักดิ์สยามพิจารณาแล้ว แต่นายศักดิ์สยามได้ขอให้คณะทำงานฯ กลับไปพิจารณาเพิ่มเติมใน 2 ประเด็น คือ 1. หาแนวทางช่วยลดภาระค่าผ่านทางให้กับประชาชน และ 2. หาแนวทางการขยายสัมปทานทางด่วนให้ BEM สั้นลง

สำหรับกรณีที่มีข้อเสนอให้แก้ไขปัญหาข้อพิพาทดังกล่าว ด้วยการขยายสัมปทานทางด่วนของ BEM จำนวน 3 สัญญา เป็นเวลาตั้งแต่ 8-15 ปี แล้วให้หมดอายุพร้อมกันในวันที่ 31 ตุลาคม 2578 และหาก BEM ลงทุนทางด่วน 2 ชั้นสำเร็จก็จะขยายอายุสัญญาทั้ง 3 ฉบับให้ถึง 30 ปีนั้น

รายงานข่าวเปิดเผยเพิ่มเติมว่า การก่อสร้างทางด่วน 2 ชั้นยังมีความจำเป็น และต้องเร่งดำเนินการ เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรให้กับประชาชน แต่การก่อสร้างทางด่วน 2 ชั้น ก็มีข้อจำกัด เพราะต้องก่อสร้างบนพื้นที่เดิม โดยตอม่อของทางด่วน 2 ชั้นจะตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างทางด่วนขาไป และขากลับเส้นปัจจุบัน ในระหว่างที่มีการก่อสร้าง ทางด่วน 2 ชั้นจึงต้องมีการทุบ หรือปิดการจราจรทางด่วนเส้นปัจจุบันบางส่วน

ทางด่วน

ดังนั้น การก่อสร้างทางด่วน 2 ชั้นจึงมีผลต่อความปลอดภัยทางด้านวิศวกรรม และกระทบสัญญาทางด่วนเส้นปัจจุบัน จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้เอกชนรายอื่นเข้ามาลงทุน นอกจาก BEM ซึ่งบริหารทางด่วนเส้นปัจจุบันอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ยังมีทางออกอื่นสำหรับเรื่องนี้ โดยการทางพิเศษฯ อาจนำเงินจากส่วนแบ่งรายได้มาลงทุนทางด่วน 2 ชั้นด้วยตัวเอง แต่จ้าง BEM ให้เป็นผู้ก่อสร้าง ซึ่งจะส่งผลให้การทางพิเศษฯ ไม่ต้องขยายสัญญาทางด่วนของ BEM ทั้ง 3 ฉบับออกไปถึง 30 ปี

Avatar photo