ผู้เชี่ยวชาญคาด จำนวนการผนวก และควบรวมกิจการ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทญี่ปุ่น จะพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ จากการที่บริษัทต่าง ๆเข้าลงทุนในภาคธุรกิจที่มีการเติบโต ท่ามกลางความหวังที่จะเอาชนะการแข่งขัน ในโลกยุคหลังโควิด
รีคอฟ คอร์ป บริษัทที่ปรึกษาด้านการควบรวมกิจการ (M&A) เปิดเผยว่า จำนวนการควบรวม และเข้าซื้อกิจการในญี่ปุ่น มีแนวโน้มแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2564 เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ ทุ่มเงินลงทุนเพื่อขยายธุรกิจ โดยหวังที่จะยกระดับขีดความสามารถ ในการแข่งขันหลังวิกฤติโควิด-19 ทั่วโลกคลี่คลายลง
ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มีการทำข้อตกลงควบรวมกิจการทั้งหมด 2,794 ฉบับ หรือเพิ่มขึ้น 15.8% จากช่วงเวลาเดียวกันในปี 2563 และมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2528 ที่เริ่มมีการเก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งหากการทำข้อตกลงยังคงดำเนินต่อไปในระดับนี้ ก็มีแนวโน้มที่จะส่งให้ยอดประจำปีนี้สูงทำลายสถิติเดิมในปี 2562 ที่ 4,088 ฉบับ
การเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่ในปี 2564 คือการที่บริษัทฮิตาชิเข้าซื้อกิจการของโกลบอลโลจิก อิงค์ (GlobalLogic Inc.) บริษัทวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของสหรัฐมูลค่า 9.6 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. เพื่อยกระดับธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศในตลาดต่างประเทศ
ข้อตกลงควบรวมกิจการส่วนใหญ่จะเป็นอุตสาหกรรมบริการ และการบริการด้านอาหาร ซึ่งบางส่วนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดใหญ่ และยังต้องการเงินทุน
ตัวอย่างของกระแสใหม่นี้ รวมถึง โคว่า โค (Kowa Co.) ทุ่มเงิน 2,000 ล้านเยน เพื่อเข้าซื้อกิจการวาตาเบะ เวดดิ้ง คอร์ป (Watabe Wedding Corp.) ซึ่งประสบปัญหาทางธุรกิจอย่างหนัก เนื่องจากผู้คนเลือกยกเลิกพิธีแต่งงานในช่วงเกิดโรคระบาด
นอกจากนี้ ยังมี ฟู้ด แอนด์ ไลฟ์ คอมพานีส์ (Food & Life Companies Ltd.) ผู้ดำเนินการแฟรนไชส์ร้านซูชิสายพานชื่อดัง อย่าง ซูชิโร (Sushiro) ได้เข้าซื้อกิจการเกียวตารุ (Kyotaru) ร้านซูชิแบบสั่งกลับบ้าน จากบริษัทโยชิโนยะ โฮลดิงส์ (Yoshinoya Holdings Co.) โดยหวังว่าจะได้ประโยชน์จากความต้องการบริการจัดส่งอาหารถึงบ้านที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘บริษัทรถบินได้’ ประกาศควบกิจการกับ ‘บริษัทโดรน’ สัญชาติจีน
- ‘แอคคอร์-ไอเอชจี’ ส่อแววควบกิจการ ผงาดโรงแรมใหญ่สุดโลก
- ‘เฟียต ไครสเลอร์’ ลงนามข้อตกลง 5 หมื่นล้านดอลล์ ควบกิจการ ‘เปอร์โยต์’