นักวิทยาศาสตร์ เผยผลวิจัยล่าสุดพบ ยาต้านไวรัส “โมลนูพิราเวียร์” อาจมีส่วนเชื่อมโยงที่ทำให้เชื้อไวรัสเกิดการกลายพันธุ์ และแพร่กระจาย
เนเจอร์ วารสารวิทยาศาสตร์ เผยแพร่ผลการวิจัยล่าสุด ที่แสดงให้เห็นว่า ยาต้านเชื้อไวรัส “โมลนูพิราเวียร์” ของ “เมอร์ค” บริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำ ที่นำมาใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างแพร่หลายนั้น สามารถก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ของไวรัส และอาจทำให้ไวรัสแพร่กระจายไปยังผู้อื่นได้เป็นบางครั้ง
โมลนูพิราเวียร์ เป็นยาตัวแรก ๆ ที่ถูกนำมาใช้รักษาผู้ติดเชื้อ ระหว่างการระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 แต่นักวิจัยที่ทำแผนที่การกลายพันธุ์ของไวรัส ในฐานข้อมูลทั่วโลก พบว่า การกลายพันธุ์ของไวรัสบางชนิด ที่เชื่อมโยงกับผู้ป่วยที่ใช้ยาโมลนูพิราเวียร์นั้น แตกต่างอย่างมากจากการกลายพันธุ์ตามปกติที่พวกเขาพบ ซึ่งหมายความว่า การใช้ยาตัวนี้ อาจนำไปสู่การติดเชื้อเพิ่มเติมได้
กรณีดังกล่าว ยังทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่ยาดังกล่าวจะเร่งการวิวัฒนาการของเชื้อไวรัสโควิด-19
นายคริสโตเฟอร์ รูอิส จากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ระบุว่า โมลนูพิราเวียร์ จัดอยุ่ในกลุ่มยา ที่เป็นสาเหตุให้ไวรัสเกิดการกลายพันธุ์ จนอ่อนแอลงไปอย่างมาก และสามารถถูกกำจัดไปได้
“แต่สิ่งที่เราพบ คือ ในผู้ป่วยบางราย กระบวนการนี้ไม่ได้ฆ่าเชื้อไวรัสทั้งหมด และไวรัสกลายพันธุ์บางชนิด สามารถแพร่ระบาดไปได้”
การค้นพบนี้อาจนำไปสู่การเพิ่มการพิจารณาตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับผลลัพธ์ในการรักษาของยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) หรือชื่อทางการค้าว่า ยาลาเกวริโอ (Lagevrio) ซึ่งเป็นหนึ่งในยาต้านโควิดชนิดแรก ๆ ที่แพทย์ทั่วโลกใช้ในการรักษาผู้ติดเชื้อระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นักวิจัยในสหรัฐและสหราชอาณาจักรได้วิเคราะห์จีโนมของไวรัสโควิดโดยเฉพาะ 15 ล้านจีโนม เพื่อตรวจสอบดูว่า เกิดการกลายพันธุ์อย่างไร และเกิดขึ้นเมื่อใด โดยพบว่า เชื้อไวรัสเกิดการกลายพันธุ์เพิ่มขึ้นในปี 2565 หลังจากที่มีการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ในหลายประเทศ
อย่างไรก็ดี การศึกษาไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ ทำให้เชื้อโควิดแพร่กระจายได้มากขึ้น หรือทำให้มีความรุนแรงมากขึ้น
ดร.ธีโอ แอนเดอร์สัน จากสถาบันฟรานซิส คริค ในลอนดอน ผู้นำการวิจัยดังกล่าว ชี้ว่า การค้นพบข้างต้น มีความสำคัญสำหรับหน่วยงานกำกับดูแล ที่ยังประเมินความเสี่ยง และประโยชน์ของยาโมลนูพิราเวียร์อยู่
ทางด้านโฆษกเมอร์ค แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการศึกษาดังกล่าว โดยระบุว่า นักวิจัยสันนิษฐานว่าการกลายพันธุ์ที่พวกเขาศึกษานั้น มีความเชื่อมโยงกับผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาโมลนูพิราเวียร์ โดยไม่มีเอกสารที่เป็นหลักฐานพิสูจน์ในเรื่องการแพร่เชื้อ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อินเดีย’ เตรียมวางขาย ‘โมลนูพิราเวียร์’ ยาต้านโควิด-19 ทั่วประเทศ
- ‘แพทย์เดนมาร์ก’ ขวางใช้ ‘โมลนูพิราเวียร์’ ร้องรัฐยกเลิกคำสั่งซื้อ
- เปลี่ยนได้แล้ว!! หมอมนูญ เตือน สธ.เลิกซื้อ โมลนูพิราเวียร์ แนะจองแพกซ์โลวิดแทน