“ริชี ซูนัค” ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ หลังจากที่ชนะการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมเมื่อวานนี้ (24 ต.ค.) สร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกรัฐมนตรีอายุน้อยสุดของประเทศ ในวัย 42 ปี ทั้งยังเป็นผู้นำคนแรกของอังกฤษ ที่ไม่ใช่คนผิวขาวด้วย
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอังกฤษรายนี้ เป็นหนึ่งในนักการเมืองที่มีฐานะมั่งคั่งที่สุดของอังกฤษ เขากลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ในช่วงเวลาไม่ถึง 2 เดือน หลังจากที่ “ลิซ ทรัสส์” นายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้าเขา ประกาศลาออก หลังเพิ่งรับตำแหน่งเพียง 45 วันเท่านั้น
วีโอเอ รายงานว่า ความท้าทายที่รอให้ซูนัคเข้าไปแก้ไขจัดการ มีตั้งแต่การหาทางปรองดองทางการเมืองภายในประเทศในช่วงที่กำลังเกิดความแตกแยกวุ่นวายครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี การแก้ไขปัญหาแบ่งฝักฝ่ายภายในพรรคอนุรักษ์นิยม ตลอดจนปัญหาเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
ซูนัคกล่าวต่อรัฐสภาในวันจันทร์ว่า อังกฤษกำลังเผชิญวิกฤติ และทุกคนจำเป็นต้องร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อฟันฝ่าความท้าทายครั้งนี้
“เราจำเป็นต้องมีเสถียรภาพและเอกภาพ”
บรรดานักวิเคราะห์คาดว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ จะใช้นโยบายลดการใช้จ่ายของรัฐบาลลงอย่างมาก เพื่อกอบกู้ความน่าเชื่อถือด้านการคลังของประเทศ ในขณะที่เศรษฐกิจอังกฤษ กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายสิบปี และปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงสืบเนื่องจากราคาสินค้าและพลังงานที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ซูนัค เคยถูกกล่าวหาว่า “หักหลัง” เมื่อคราวที่เขาประกาศลาออกจากคณะรัฐมนตรีของอดีตนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน จนนำไปสู่การล้มครืนของรัฐบาลของบอริส จอห์นสัน เมื่อไม่กี่เดือนก่อน
สมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมบางคนกล่าวหาว่า ซูนัค “ร่ำรวยเกินไป” ที่จะเข้าใจถึงแรงกดดันทางเศรษฐกิจ ที่ประชาชนทั่วไปเผชิญอยู่ รวมทั้งมีความกังวลว่า เขาจะสามารถนำพรรคชนะการเลือกตั้งทั่วไปสมัยหน้าในปี 2568 ได้หรือไม่
แต่ก็มีนักวิเคราะห์บางคนที่ยกย่องความสามารถของเขา ในการสมานพรรคที่แตกแยกนี้ในช่วงที่เกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19
วิกฤติระยะยาวที่ ริชี ซูนัค ต้องรับมือ
เวลานี้อังกฤษกำลังเผชิญกับวิกฤติในระยะยาว นับตั้งแต่แยกตัวออกจากสหภาพยุโรปเมื่อปี 2559 จนทำให้เกิดความขัดแย้งภายในรัฐสภาอังกฤษ เกี่ยวกับอนาคตของประเทศที่ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข
อดีตนายกรัฐมนตรีจอห์นสัน ผู้สนับสนุนการแยกตัว นำพาพรรคอนุรักษ์นิยมสู่ชัยชนะถล่มทลายในการเลือกตั้งเมื่อ 2 ปีก่อน แต่กลับต้องประกาศลาออกเมื่อกลางปีนี้ สืบเนื่องจากข่าวอื้อฉาวมากมาย ขณะที่ ผู้สืบทอดตำแหน่งคนต่อมา คือ ลิซ ทรัสส์ อยู่ในตำแหน่งได้เพียงหกสัปดาห์เท่านั้น
ทรัสส์ ยอมรับว่าไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้ เมื่อคราวลงชิงตำแหน่งผู้นำพรรคอนุรักษนิยม จนทำให้สมาชิกพรรคหมดศรัทธาในตัวเธอ หลังแผนการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ ทำค่าเงินปอนด์ และพันธบัตรอังกฤษล้มระเนระนาดไป ขณะที่ความนิยมในตัวเธอ และพรรคอนุรักษ์นิยมก็ตกฮวบไปด้วย
นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า ซูนัคกำลังเผชิญความท้าทายทางการเมือง และเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายสิบปี
ขณะที่บรรดานักเศรษฐศาสตร์ และนักลงทุน ต่างแสดงความยินดีที่ซูนัคเข้ารับตำแหน่ง แต่ก็ตั้งคำถามว่าเขาจะสามารถรับมือกับปัญหาในภาคการเงินของประเทศ พร้อมไปกับการรวมพรรคอนุรักษนิยมที่แตกแยกเป็นหลายก๊ก ให้กลับเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันได้หรือไม่
ทั้งนี้ บททดสอบแรกของซูนัคจะมีขึ้นในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ เมื่อรัฐมนตรีการคลังคนปัจจุบัน เจเรมี ฮันท์ จะนำเสนอร่างงบประมาณฉบับใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายจำกัดหนี้ภาครัฐที่คาดว่าจะพุ่งสูงขึ้นถึง 40,000 ล้านปอนด์
ลูกหลานผู้อพยพชาวอินเดีย
ริชี ซูนัค คือนายกรัฐมนตรีคนแรกของอังกฤษ ที่มีเชื้อสายอินเดีย โดยครอบครัวของเขาอพยพมาตั้งรกรากในอังกฤษเมื่อทศวรรษ 60 ในช่วงที่มีผู้อพยพจำนวนมากจากประเทศในอาณานิคมของอังกฤษ เดินทางมาเริ่มชีวิตใหม่ และช่วยบูรณะประเทศหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
ซูนัค จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ในอังกฤษ และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในสหรัฐ ที่ซึ่งเขาพบรักกับภรรยา อัคชาตา เมอร์ธีย์ บุตรสาวของมหาเศรษฐีชาวอินเดีย เอ็น อาร์ นารายานา เมอร์ธีย์ ผู้ก่อตั้งบริษัทเอาท์ซอร์สด้านเทคโนโลยี อินโฟซิส (Infosys)
หลังจากข่าวที่ซูนัคได้เป็นหัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม และนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่เผยแพร่ออกไป นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย ได้ส่งข้อความแสดงความยินดีต่อซูนัคทันที
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- แค่ 45 วัน! ‘ลิซ ทรัสส์’ ลาออกจากนายกฯ อังกฤษ ‘เงินปอนด์’ แข็งค่าทันที
- รู้จักนายกฯ ใหม่อังกฤษ ‘ลิซ ทรัสส์’ จากนักการเมืองฝ่ายซ้าย สู่ผู้นำอนุรักษนิยม
- ‘บอริส จอห์นสัน’ ลาออก ‘นายกฯ อังกฤษ’ จับตา! ‘รมว.กลาโหม’ ตัวเก็งขึ้นแทนที่
