ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (12 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ร่วงลงอีก 2.08 ดอลลาร์ หลัง “โอเปค” คาด ความต้องการบริโภคน้ำมันลดลงทั้งในปีนี้ และปีหน้า
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ร่วงลง 2.08 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 87.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนธันวาคม ราคาปรับลงมา 1.84 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 92.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดถูกกดดัน จากการที่ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ลดตัวเลขคาดการณ์ความต้องการน้ำมันโลกในปีนี้ และปี 2566 ผลจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ และการที่จีนใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มงวด
ในรายงานภาวะตลาดน้ำมัน ประจำเดือนตุลาคม โอเปค ประเมินว่า ความต้องการน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 2.64 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 2.7% ในปีนี้ โดยลดลง 460,000 บาร์เรลต่อวัน จากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ และในปีนี้ จะเพิ่มขึ้น 2.34 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยลดลง 360,000 บาร์เรล/วันจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้
นักลงทุน ยังรอดูข้อมูลสต็อกน้ำมันของสหรัฐ ที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (อีไอเอ) ของสหรัฐ จะเปิดเผยในวันนี้ (13 ต.ค.) ซึ่งนักวิเคราะ คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐอาจเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ตลาคม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ คาด น้ำมันดิบ ราคาดีดถึง 115 ดอลลาร์ ต้นปี 66 เหตุ ‘โอเปคพลัส’ ลดผลิตครั้งใหญ่
- ไม่สนแรงกดดัน! ‘โอเปคพลัส’ หั่นกำลังผลิตน้ำมันวันละ 2 ล้านบาร์เรล หวังดันราคา
- ‘ไออีเอ’ ชี้ ‘รัสเซีย’ ผลิตน้ำมันมากเกินคาด แต่ ‘มาตรการคว่ำบาตร’ เริ่มกระทบ