ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ปรับขึ้นเล็กน้อย แรงหนุนจากการจัดหาน้ำมันตึงตัว แต่ความกังวลเรื่อง “เฟด” เร่งขึ้นดอกเบี้ย ยังเป็นปัจจัยลบ เกาะติดตลาด
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 85.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 65 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 92.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาขยับขึ้น หลังมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส ผลิตน้ำมันต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 3.583 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนสิงหาคม ส่วนในเดือนกรกฎาคม โอเปคพลัส ผลิตน้ำมันต่ำกว่าเป้าหมายประมาณ 2.892 ล้านบาร์เรลต่อวัน
อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า การเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 80% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% มาอยู่ที่ ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบาย ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในวันนี้ (20 ก.ย.) และให้น้ำหนัก 20% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 1.00%
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ย.) ขณะที่นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ไออีเอ’ ชี้ ‘รัสเซีย’ ผลิตน้ำมันมากเกินคาด แต่ ‘มาตรการคว่ำบาตร’ เริ่มกระทบ
- ราคาน้ำมันโลกพุ่ง! คนไทยซื้อแพงขึ้น 44.7% ขณะที่ยอดใช้ 9 เดือนร่วง 5.2%
- ‘ซีอีโอเอ็กซอน’ เตือน เปลี่ยนใช้ ‘พลังงานหมุนเวียน’ กะทันหัน ทำ ‘ราคาน้ำมัน’ พุ่ง
