World News

‘ราคาน้ำมัน WTI’ แทบไม่ขยับ ‘เบรนท์’ ดิ่ง 3% หวั่นความต้องการลด เหตุเศรษฐกิจเจอกระทบ ‘ขึ้นดอกเบี้ย-จีนล็อกดาวน์’

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (6 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น แทบไม่ขยับ แต่ “เบรนท์” ดิ่งถึง 3% ท่ามกลางความกังวลว่า ความต้องการจะลดลง จากการที่แบงก์ชาติทั่วโลกพากันขึ้นดอกเบี้ย และจีนยังคงล็อกดาวน์เมืองสำคัญ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 86.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ร่วงลง 2.91 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 92.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

shutterstock 1770231809

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมัน หลังจากจีนยังคงล็อกดาวน์เมืองสำคัญ โดยเมืองเฉิงตูซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเสฉวน ประกาศขยายเวลาการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ส่วนที่เมืองกุ้ยหยาง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลกุ้ยโจว สั่งล็อกดาวน์ชุมชนใน 6 เขตจากทั้งหมด 10 เขต โดยเมืองกุ้ยหยางมีประชาชนอาศัยอยู่ประมาณ 6.1 ล้านคน และเป็นที่ตั้งของบริษัทผลิตรถยนต์หลายแห่งซึ่งรวมถึงบริษัทจีลี ออโตโมบิล โฮลดิ้งส์

ขณะเดียวกันการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ยังส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.35% สู่ระดับ 110.2140 เมื่อวานนี้

ตลาดยังได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางขนาดใหญ่ทั่วโลก โดยนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันพรุ่งนี้ (8 ก.ย.) และคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยเช่นกันในการประชุมวันที่ 21 กันยายน

ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการล็อกดาวน์ และขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลาง สกัดปัจจัยบวก จากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และชาติพันธมิตร หรือโอเปคพลัส มีมติลดกำลังการผลิต 100,000 บาร์เรลต่อวัน สำหรับเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นการลดกำลังการผลิตครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2563 เพื่อพยุงราคาน้ำมันในตลาดโลก

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo