ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ ปิดตลาดวานนี้ (15 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น พุ่งแรง ขานรับรายงานข่าวที่ระบุว่า สหรัฐไม่คาดหวังว่า ซาอุดีอาระเบียจะเร่งเพิ่มการผลิตน้ำมันทันที ระหว่างที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำอเมริกา เดินทางเยือน
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนสิงหาคม พุ่งขึ้น 1.81 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 97.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนกันยายน พุ่งขึ้น 2.06 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 101.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น หลังมีรายงานข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐไม่คาดหวังว่า ซาอุดีอาระเบียจะเพิ่มการผลิตน้ำมันในทันที แต่สหรัฐกลับมุ่งความคาดหวังดังกล่าว ไปที่การประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 3 สิงหาคมนี้
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้ โดยถูกกดดันจากแนวโน้มอุปสงค์ที่ซบเซา โดยที่ WTI ร่วงลง 6.9% และเบรนท์ ร่วงลง 5.5%
นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากคอมเมิร์ซแบงก์ รีเสิร์ช ชี้ว่า ความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ มีอิทธิพลต่อตลาดน้ำมัน และจะยังเป็นปัจจัยกดดันราคาอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณาจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ในรายงานรายเดือน ที่เปิดเผยเมื่อต้นสัปดาห์นี้ สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันโลกในปีนี้ และปีหน้า พร้อมระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคที่ย่ำแย่ลง และความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะยังคงกดดันบรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เมื่อ ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ สะสมหุ้นน้ำมัน สะท้อนความแข็งแกร่งกลุ่มพลังงาน!!!
- ‘ไบเดน’ จ่อผลักดัน ‘ยกเว้นภาษีน้ำมัน-ลดกำแพงภาษีจีน’ ช่วยคนอเมริกันรับมือเงินเฟ้อ
- กบน.ยังตรึงดีเซลที่ 34.94 บาท/ลิตรต่อเนื่อง แม้กองทุนน้ำมันติดลบทะลุ 1 แสนล้าน!