“วอร์เรน บัฟเฟตต์” สะสมหุ้นน้ำมัน สะท้อนความแข็งแกร่งกลุ่มพลังงาน ยังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และอุปโภคบริโภค มีการเติบโตแน่นอน
ระยะหลังนี้อุตสาหกรรมพลังงานดั้งเดิม เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน อาจจะถูกด้อยมูลค่าไปบ้าง เนื่องจากสถานการณ์ความผันผวนรุนแรงของตลาด ประกอบกับเทรนด์การเติบโตของพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือ Green Energy ก็ยิ่งเป็นกดดันให้ธุรกิจน้ำมันเจอกับกระแส Disruption อย่างรุนแรง
อย่างไรก็ดี ในมุมมองของนักลงทุนสายปัจจัยพื้นฐาน (Value Investor) ระดับโลกอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ กลับเลือกทำในสิ่งที่สวนตลาดกระแสหลัก โดยยังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และอุปโภคบริโภคซึ่งมีการเติบโตแน่นอน เพราะเป็นสิ่งของที่คนต้องกินต้องใช้ และมีการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนหุ้นของบริษัทพลังงานอย่างต่อเนื่อง
ความเคลื่อนไหวล่าสุด เมื่อเดือนพฤษภาคม Berkshire Hathaway บริษัทโฮลดิ้งด้านการลงทุนของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ทุ่มเงินลงทุนจำนวน 529 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 18,741 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้น Occidental Petroleum จำนวน 9.6 ล้านหุ้น ทำให้ขณะนี้ Berkshire Hathaway กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Occidental Petroleum ที่สัดส่วน 16.3%
และต่อเนื่องเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม Berkshire Hathaway ก็ได้เ้ขาซื้อหุ้น Occidental Petroleum เพิ่มเติมอีก 9.9 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 354.93 ล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนการถือครองเพิ่มขึ้นเป็น 163.4 ล้านหุ้น ที่สัดส่วนราว 17.4% ของหุ้นทั้งหมด พร้อมขึ้นแท่นขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1
Occidental Petroleum หรือที่รู้จักกันในชื่อ Oxy เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกาที่ดำเนินธุรกิจสำรวจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐ ตะวันออกกลาง และโคลอมเบีย รวมถึงมีธุรกิจผลิตปิโตรเคมีอีกด้วย ถือเป็นบริษัทด้านพลังงานขนาดใหญ่ระดับโลก และถือเป็นหุ้นที่มีผลประกอบการดีที่สุดใน S&P500 ของปีนี้อีกด้วย โดยมีกำไรเพิ่มขึ้นกว่า 90% จากราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้น
ตลอดครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ราคาของหุ้น Occidental Petroleum เคลื่อนไหวเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว เนื่องจากแรงหนุนของการเข้าซื้อหุ้นของ Berkshire Hathaway รวมทั้งได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นหลังจากรัสเซียบุกยูเครน
ทั้งนี้ Berkshire Hathaway ไม่ได้ลงทุนหุ้นน้ำมันแค่ Occidental Petroleum บริษัทเดียว แต่ยังมี Chevron (CVX) ซึ่งเป็นหุ้นอันดับต้นๆ ของตลาด Dow Jones นับเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมน้ำมันในปัจจุบัน ยังมีเสน่ห์พอสมควรในสายตานักลงทุนระดับโลก ท่ามกลางสภาวะความผันผวนที่รุนแรงในขณะนี้
นอกจากนี้ Berkshire Hathaway ยังได้กระจายเงินเข้าลงทุนในธุรกิจพลังงานกลุ่มอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทวางระบบสาธารณูปโภคไฟฟ้าชั้นนำ ท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และบริษัทพลังงานหมุนเวียนหลายแห่ง ทำให้พอร์ตโฟลิโอของวอร์เรน บัฟเฟตต์ นั้นมีธุรกิจพลังงานเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินงาน
ประเด็นที่หลายคนสงสัยคือ ทำไมถึงเลือกลงทุนหุ้นน้ำมันในเวลานี้ ขณะที่ทั่วโลกมุ่งเน้นให้ความสนใจกับพลังงานสะอาดมากกว่า เขาได้ตอบคำถามนี้เมื่องานประชุมประจำปี Berkshire Hathaway Annual Shareholder Meeting 2021 ว่าเทรนด์การใช้พลังงานในอนาคตเราคงไม่สามารถเลือกข้างแบบสุดโต่งว่าจะเป็นพลังงานสะอาดหรือน้ำมัน แต่ต้องใช้ทั้งสองรูปแบบควบคู่กันไป
เนื่องจากพลังงานสะอาดยังไม่สามารถเป็นแหล่งพลังงานหลักเพียงอย่างเดียวได้ ด้วยปัจจัยเรื่องความเสถียร ทำให้ต้องพึ่งพาแหล่งพลังงานจากน้ำมันและปิโตรเลียม และสุดท้ายแล้วในระยะยาวจะเกิดการปรับสมดุลกันระหว่างแหล่งพลังงานทั้งสองประเภท
หันกลับมาที่ทิศทางการลงทุนในประเทศไทย แน่นอนว่าธุรกิจพลังงานสะอาด เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก แบตเตอรี่ รถ EV Car และสถานีชาร์จไฟฟ้า ฯลฯ กำลังได้รับการส่งเสริมมากขึ้นเรื่อยๆ ผลักดันให้ราคาหุ้นของธุรกิจเหล่านี้ทะยานขึ้นรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกันกลุ่มพลังงานดั้งเดิมอย่างน้ำมัน ถ่านหิน และโรงกลั่น ก็ยังคงเป็นการลงทุนที่มีความมั่นคงสูง และสามารถสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ช้อนซื้อเก็งกำไร หนุน ‘ราคาน้ำมัน WTI’ ปิดตลาด ขยับขึ้น 46 เซนต์
- ‘ซีอีโอเอ็กซอน’ เตือน เปลี่ยนใช้ ‘พลังงานหมุนเวียน’ กะทันหัน ทำ ‘ราคา น้ำมัน’ พุ่ง
- ‘ไบเดน’ จ่อผลักดัน ‘ยกเว้นภาษีน้ำมัน-ลดกำแพงภาษีจีน’ ช่วยคนอเมริกันรับมือเงินเฟ้อ
- เปิดเหตุผล ‘ราคา น้ำมัน’ ยังแพงอีกนาน
