World News

ระเบิดฆ่าตัวตาย ในมัสยิดกลาง ‘กรุงคาบูล’ ดับกว่า 50 ศพ

เกิดเหตุระเบิดโจมตีมัสยิดในกรุงคาบูล ของอัฟกานิสสถาน หลังละหมาดช่วงบ่ายวันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คน และบาดเจ็บจำนวนมาก

วันนี้ (30 เม.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรงที่มัสยิดแห่งหนึ่งในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ขณะที่ศาสนิกชนจำนวนมากกำลังรวมตัวกัน เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาในช่วงบ่ายวันศุกร์ (29 เม.ย.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 50 คน และบาดเจ็บจำนวนมาก

FRhu2zVWQAALeBf

เหตุระเบิดเกิดขึ้นที่มัสยิดคาลิฟา ซาฮิบ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงคาบูล หลังเสร็จสิ้นการละหมาดในวันศุกร์สุดท้ายของเดือนรอมฎอนของชาวมุสลิมนิกายสุหนี่ โดยหัวหน้ามัสยิดกล่าวว่า มือระเบิดได้แฝงตัวมาร่วมพิธี ก่อนจะจุดชนวนระเบิดฆ่าตัวตาย

“มีกลุ่มควันดำมืดลอยขึ้นมาและแผ่กระจายไปทั่ว จากนั้นผมมองเห็นศพกระจัดกระจายทั่วมัสยิด หลานชายของผมก็เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตด้วย ถึงผมจะรอดมาได้ แต่ผมก็ต้องสูญเสียคนที่ผมรักในเหตุการณ์นี้”

ขณะแหล่งข่าวด้านสาธารณสุข เปิดเผยว่า ขณะนี้มีศพผู้เสียชีวิตถูกส่งไปโรงพยาบาลแล้วอย่างน้อย 66 ศพ และผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 78 ราย โดยส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกไฟไหม้

หลังเกิดเหตุนายซาบิห์ อุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกกลุ่มตาลีบัน ออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ พร้อมระบุว่าผู้กระทำความผิดจะถูกหาตัวจนพบ และได้รับโทษจากการกระทำนี้

ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวอัฟกันจำนวนมากต้องถูกพรากชีวิตจากการโจมตีด้วยระเบิดซึ่งเกิดขึ้นหลายครั้ง โดยมุ่งเป้าไปที่ชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย ที่ถูกมองว่าเป็นพวกนอกรีตในศาสนา และมีบางครั้งก็เกิดเหตุโจมตีมัสยิดของชาวสุหนี่ โดยกลุ่มรัฐอิสลามได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบในบางเหตุการณ์

อย่างไรก็ตาม ยังคงไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีมัสยิดครั้งล่าสุดนี้

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo