World News

‘ยูเครน’ ระบุ ‘กองทัพรัสเซีย’ เข้าประชิดเมืองหลวงแล้ว ‘เซเลนสกี’ ตัดพ้อชาติตะวันตก ปล่อยให้สู้อย่างโดดเดี่ยว

กระทรวงกลาโหมยูเครน ระบุ กองกำลังรัสเซียเข้ามาถึงย่านโอโบลอน ใกล้กรุงเคียฟแล้ว ขณะ “โวโลดีมีร์ เซเลนสกี” ขอรัสเซียเปิดเจรจา พร้อมตัดพ้อชาติตะวันตก ปล่อยให้ยูเครนต้องสู้อย่างโดดเดี่ยว

วันนี้ (25 ก.พ.) บีบีซี รายงานว่า กระทรวงกลาโหมยูเครน ทวีตข้อความแจ้งข่าวว่า กองกำลังของรัสเซีย เคลื่อนตัวเข้ามาถึงย่านโอโบลอน ซึ่งอยู่ห่างจากอาคารรัฐสภา ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ไปทางเหนือราว 9 กิโลเมตรแล้ว

ยูเครน

ทั้งนี้ ทางการยูเครนบอกให้ชาวเมืองบางส่วนทำระเบิดขวดเพื่อตอบโต้ พร้อมแนะนำพลเมืองส่วนอื่น ๆ หาที่หลบภัย

“ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ระมัดระวังตัว อย่าออกนอกเคหสถาน”

ก่อนหน้านี้  เมื่อเวลา 7.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ได้กล่าวกับประชาชนอีกครั้ง โดยพูดผ่านเทปบันทึกวิดีโอทั้งในภาษายูเครน และรัสเซีย เรียกร้องให้รัสเซียหยุดยิงและหันหน้ามาเจรจา

“รัสเซียจะต้องพูดคุยกับเราไม่ช้าก็เร็วเพื่อหาทางยุติความเป็นศัตรูและหยุดการรุกราน  การเจรจาเกินขึ้นได้เร็วเท่าใด ความสูญเสียกับรัสเซียก็จะน้อยลงเท่านั้น”

เขาเสริมว่าจนกว่าการโจมตีจะยุติลง “เราจะป้องกันประเทศชาติของเราไปจนถึงตอนนั้น”

เมื่อคืนที่ผ่านมา นายเซเลนสกี เพิ่งออกมาเตือนว่าจะเกิดการโจมตีกรุงเคียฟอย่างหนักหน่วง และเขาเองจะไม่เดินทางออกจากเมืองหลวงแห่งนี้ และเขารู้ดีว่าได้ตกเป็นเป้าหมายสำคัญอันดับหนึ่งของรัสเซียไปแล้ว

ยูเครนยืนยันถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ

นายเซเลนสกี ยังยืนยันด้วยว่า มีการโจมตีด้วยขีปนาวุธเกิดขึ้นหลายระลอกในช่วงก่อนเวลา 04.00 น. วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น โดยรัสเซียพุ่งเป้าโจมตีทั้งที่ตั้งทางการทหาร และพลเรือน ขณะที่รัสเซียออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่าไม่ได้มุ่งโจมตีพลเรือน

อย่างไรก็ดี บีบีซีรายงานไปก่อนหน้านี้แล้วว่าระเบิดเกิดขึ้นหลายครั้งในกรุงเคียฟ ในเช้าวันนี้ จุดที่ถูกโจมตีรวมถึงอาคารที่พักของชาวบ้านด้วย

ตัดพ้อชาติตะวันตก ปล่อยยูเครนสู้อย่างโดดเดี่ยว

นายเซเลนสกี ยังขอร้องอีกครั้งให้ชาติตะวันตกช่วยยูเครนหยุดยั้งการกระทำอย่างป่าเถื่อนของรัสเซีย

“เช้าวันนี้เรายังคงต้องปกป้องตัวเองอยู่ฝ่ายเดียว เหมือนเมื่อวาน กองทัพอันทรงพลังที่สุดของโลกได้แต่ดูอยู่ห่าง ๆ รัสเซียรู้สึกอะไรไหมกับการถูกคว่ำบาตรเมื่อวานนี้ เสียงที่เราได้ยินจากบนฟ้า และสิ่งที่เราได้เห็นบนผืนดิน ชี้ว่าแค่นี้ไม่พอ”

ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนกล่าวตัดพ้อว่า ประเทศของเขาต้องต่อสู้กับรัสเซียอย่างโดดเดี่ยว ในขณะที่กองกำลังอันทรงแสนยานุภาพของชาติตะวันตกพากันนิ่งเฉย และเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น

ยกย่อง 13 ทหารสละชีพ สู้เรือรบรัสเซีย 

หนึ่งในเรื่องราวการสละชีพของทหารยูเครนเพื่อปกป้องมาตุภูมิ ที่มีการส่งต่อในสื่อสังคมออนไลน์จนกลายเป็นไวรัลอยู่ในขณะนี้ ได้แก่การสู้รบที่เกิดขึ้นบนเกาะซมีนี (Zmiiny) หรือ “เกาะงู” ในทะเลดำ โดยทหาร 13 คน ปฏิเสธที่จะยอมจำนนต่อเรือรบของรัสเซีย และต่อสู้จนตัวตาย หลังถูกระดมโจมตีจากฝ่ายที่มีกำลังเหนือกว่า

มีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนาระหว่างทหารผู้หนึ่งกับเรือรบรัสเซีย โดยฝ่ายรัสเซียบอกว่า “ยอมจำนนเสียดีกว่า วางอาวุธและอย่าขัดขืน ไม่อย่างนั้นเราจะยิง ได้ยินไหม” ทหารยูเครนผู้นั้นกลับตะโกนว่า “เรือรบรัสเซีย ไปตายซะ”

ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวยกย่องทหารกลุ่มนี้ รวมทั้งทหารที่สละชีพต่อต้านกองทัพรัสเซียในแนวรบทุกด้าน โดยพวกเขาจะได้รับการแต่งตั้งเป็น “วีรบุรุษแห่งยูเครน” ในภายหลัง

ชาวยูเครนอพยพข้ามแดน

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ชาวยูเครนหลายครอบครัวเริ่มอพยพข้ามแดนไปยังประเทศใกล้เคียง ภายหลังกองทัพรัสเซียเริ่มปฏิบัติการโจมตี โดยโปแลนด์ และสโลวะเกียเป็น 2 ประเทศที่เปิดพรมแดนรับผู้อพยพชาวยูเครนแล้ว

ทางด้าน สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประเมินว่าการสู้รบในครั้งนี้จะทำให้มีชาวยูเครนต้องพลัดถิ่นมากกว่า 100,000 คน ขณะที่รัฐบาลยูเครนรายงานว่า ประชาชนหลายพันคนเริ่มเดินทางออกนอกประเทศ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo