สื่อดังรายงาน “วัคซีนโควิด – 19” อาจไม่ได้ผลกับคนอเมริกัน 3-4% ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ
หนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์ ของสหรัฐ รายงานว่าการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อาจไม่ได้ผลเต็มที่หรือไม่ได้ผลเลย สำหรับชาวอเมริกันที่มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอหลายล้านคน หรือคิดเป็นราว 3-4% ของประชากรทั้งหมด
“งานวิจัยเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่า 15-80% ของผู้มีอาการป่วยบางอย่าง อาทิ มะเร็งเม็ดเลือดหรือการปลูกถ่ายอวัยวะ จะสามารถสร้างแอนติบอดีได้เพียงเล็กน้อยหลังรับวัคซีน” หนังสือพิมพ์ระบุ
ทั้งนี้ การตัดสินใจยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างทางสังคมสำหรับผู้รับวัคซีนครบโดสเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้กลุ่มผู้มีปัญหาภูมิคุ้มกันข้างต้นหวาดกลัว โดดเดี่ยว และสับสน โดยพวกเขาแสดงความข้องใจผ่านทวิตเตอร์และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ว่า การยกเลิกดังกล่าวอาจทำให้พวกเขามีอิสระน้อยลง เนื่องจากความเสี่ยงติดเชื้อเพิ่มขึ้น หลังเพื่อนพ้องจำนวนมากเลิกสวมหน้ากากอนามัยแล้ว
“บริษัทผู้ผลิตวัคซีนไม่ได้รวมผู้มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอเข้าร่วมการทดลองทางคลินิก เพราะเร่งรีบจะพัฒนาวัคซีนโดยเร็วที่สุด ด้วยเหตุนี้ จึงมีข้อมูลเพียงเล็กน้อยว่าผู้ป่วยกลุ่มนี้มีปฏิกิริยาอย่างไรต่อวัคซีน รวมถึงต่อการคลายข้อจำกัดของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC)” หนังสือพิมพ์ชี้
ขณะเดียวกันทั้งรัฐบาลกลางและบริษัทผู้ผลิตวัคซีนอย่างไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer-BioNTech) และโมเดอร์นา (Moderna) ยังไม่ได้ทำการศึกษาอย่างละเอียดว่า วัคซีนสามารถปกป้องผู้มีปัญหาภูมิคุ้มกันจากเชื้อไวรัสฯ ได้หรือไม่
ที่มาสำนักข่าวซินหัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ญี่ปุ่น’ ห้าม 7 ชาติ รวม ‘ไทย’ เดินทางเข้าประเทศ หวังสกัด ‘โควิด’
- โควิดวันนี้ 20 พ.ค. ทั่วโลกติดเชื้อ 165.55 ล้าน ‘ยูเออี-บาห์เรน’ เดินหน้าฉีด ‘วัคซีนซิโนฟาร์ม’ โดส 3
- ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ก็มา! ‘สหรัฐ’ งัดทุกกลยุทธ์ จูงใจคนฉีดวัคซีนโควิด