World News

‘สหรัฐ’ เตือน อย่ากักตุน ‘น้ำมันเบนซิน’ ท่อส่งยักษ์ปิดวันที่ 5 เจอโจมตีไซเบอร์

สหรัฐออกโรงเตือนประชาชน อย่ากักตุน “น้ำมันเบนซิน” หลังท่อส่งน้ำมัน “โคโลเนียล ไปป์ไลน์” ยังปิดต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 หลังโดยแฮกเกอร์โจมตี ปล่อยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ และทำให้ภาคตะวันออกของสหรัฐ เริ่มประสบภาวะขาดแคลนน้ำมันแล้ว 

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า หลายพื้นที่ทางภาคตะวันออกของสหรัฐ เริ่มตกอยู่ในภาวะขาดแคลนน้ำมันแล้ว หลังเกิดเหตุโจมตีทางไซเบอร์ต่อเครือข่ายท่อขนส่งน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของประเทศ ทำให้ต้องปิดการจ่ายน้ำมันมาตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว (7 พ.ค.) ทั้งยังทำให้เกิดความกังวลว่าราคาเชื้อเพลิงในสหรัฐ จะสูงขึ้นก่อนถึงฤดูร้อน ซึ่งเป็นช่วงที่คนอเมริกันใช้รถยนต์กันมากที่สุดในรอบปี

แนสน

บริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ (Colonial Pipeline) เจ้าของเครือข่ายท่อส่งน้ำมัน ที่ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ หรือมัลแวร์เรียกค่าไถ่ กล่าวว่า กำลังพยายามควบคุมความเสียหาย และเร่งกลับมาเปิดการจ่ายน้ำมันอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้

ขณะที่เว็บไซต์ของบริษัทไม่สามารถใช้การได้เมื่อวานนี้ (11 พ.ค.) ซึ่งทางโคโลเนียลระบุว่า “เกิดความขัดข้องชั่วคราว” แต่ไม่เกี่ยวข้องกับแรนซัมแวร์แต่อย่างใด

โคโลเนียล ไปป์ไลน์ ดำเนินการขนส่งน้ำมัน และเชื้อเพลิงต่าง ๆ ราว 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากโรงกลั่นในแถบอ่าวเม็กซิโก ไปยังรัฐต่าง ๆ ทางภาคตะวันออก และตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐ ผ่านเครือข่ายท่อขนส่งน้ำมันความยาว 8,850 กิโลเมตร  โดยปริมาณน้ำมันราวครึ่งหนึ่งในแถบภาคตะวันออกของสหรัฐ ถูกขนส่งผ่านเครือข่ายของบริษัทนี้

ทั้งนี้ สำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) ยืนยันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (10 พ.ค.) ว่า “ดาร์กไซด์” กลุ่มแฮกเกอร์ในรัสเซีย อยู่เบื้องหลังการโจมตีไซเบอร์ครั้งนี้ ส่วนดาร์กไซด์  ก็ออกแถลงการณ์ ย้ำว่า เป้าหมายการโจมตีคือ “เงิน” เท่านั้น ไม่ได้ต้องการสร้างปัญหาให้แก่สังคม พร้อมยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมือง ไม่ว่ารัฐบาลของประเทศใดก็ตาม

สถานทูตรัสเซียประจำสหรัฐ ก็ออกแถลงการณ์ ปฏิเสธความเกี่ยวข้อง กับการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์เรียกร้องค่าไถ่เป็นจำนวนเงินเท่าใด และทางบริษัทโคโลเนียล ยังไม่เปิดเผยว่า จะยินยอมจ่ายเงินค่าไถ่ตามที่กลุ่มแฮกเกอร์เรียกร้องหรือไม่

ทางด้าน สมาคมรถยนต์อเมริกัน เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันเฉลี่ยทั่วประเทศในสหรัฐ ขณะนี้เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2557 พร้อมเตือนประชาชน อย่ากักตุนน้ำมัน เพราะจะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น

pipe

เช่นเดียวกับ นางเจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสหรัฐ ที่ออกมาเตือนชาวอเมริกันว่า อย่ากักตุนน้ำมันเบนซิน โดยคาดการณ์ว่า โคโลเนียล ไปป์ไลน์ จะกลับมาเปิดดำเนินการได้ทั้งระบบในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากต้องปิดดำเนินงานจากเหตุโจมตีทางไซเบอร์

“ดิฉันได้หารือกับซีอีโอของบริษัทโคโลเนียลหลายครั้ง ซึ่งได้ชี้แจงว่า หลังพ้นช่วงปิดทำการ บริษัทได้ตั้งเป้าที่จะกลับดำเนินการผลิตอย่างเต็มศักยภาพ อย่างไรก็ดี อาจต้องใช้เวลาอีกสองสามวันจึงจะกลับมาเร่งดำเนินงานได้”

ท่าทีดังกล่าว สอดคล้องกับที่ทาง โคโลเนียล ไปป์ไลน์ ออกมาเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า การดำเนินงานของท่อส่งน้ำมันส่วนใหญ่ ซึ่งต้องปิดทำการชั่วคราวในช่วงก่อนหน้านี้เนื่องจากถูกโจมตีทางไซเบอร์นั้น ได้เริ่มกลับมาดำเนินงานแล้ว

นางแกรนโฮล์ม บอกด้วยว่า  วิกฤติด้านการจัดหาน้ำมันในขณะนี้ เกิดขึ้นในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของหสรัฐ เป็นส่วนใหญ่ ได้แก่ รัฐนอร์ทแคโรไลนา, เซาท์แคโรไลนา, เทนเนสซี, จอร์เจีย และทางตอนใต้ของรัฐเวอร์จิเนีย

“เราจะเห็นว่าการขาดแคลนน้ำมันเกิดขึ้นในภูมิภาคเหล่านี้ เรารู้ว่ายังมีน้ำมันเบนซิน แต่ต้องไปให้ถูกที่” นางแกรนโฮล์ม ย้ำกับชาวสหรัฐไม่ให้กักตุนน้ำมันเบนซิน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo