แบงก์ชาติเอเชียเดินหน้าสู่นโยบายปกติ ท่ามกลางความเชื่อว่า เศรษฐกิจของประเทศตัวเองจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งไปอีกระยะหนึ่ง
การเปลี่ยนแปลงข้างต้น ยังเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลว่า อัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่เพิ่มสูงขึ้น จะทำให้สกุลเงินของแต่ละประเทศมีความน่าสนใจน้อยลง และทำให้เกิดภาวะเงินทุนไหลออกตามมา
เมื่อวันที่ 13 เมษายน กรมการเงินสิงคโปร์ ได้ตัดสินใจที่จะเพิ่มความเข้มงวดในนโยบายการเงินเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี
“ในไตรมาสต่อไป การเติบโตของเศรษฐกิจสิงคโปร์ น่าจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพ ซึ่งการขยายตัวนี้ จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการค้า” ธนาคารกลางสิงคโปร์ ระบุ
การตัดสินใจข้างต้นยังเกิดขึ้น หลังจากที่ผลิตภัณฑ์มวงรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสิงคโปร์เมื่อปรับอัตราเงินเฟ้อแล้ว ขยายตัวที่ระดับ 4.3% ต่อปี ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ซึ่งธนาคารกลางสิงคโปร์ ระบุว่า ถึงเวลาที่จะปรับนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายให้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว
เกาหลีใต้นำขึ้นดอกเบี้ย
หลังจากที่ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ ปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 6 ปีครึ่ง เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ธนาคารกลางประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ก็ได้มีการเคลื่อนไหวตามกันมา
เมื่อเดือนมกราคม ธนาคารกลางมาเลเซียปรับขึ้นดอกเบี้่ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีครึ่ง และในเดือนมีนาคม กรมการเงินฮ่องกง ก็ได้ขึ้นดอกเบี้ยกู้ยืมสำหรับธนาคาร ตามการเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
บรรดาผู้เล่นในตลาด ต่างคาดการณ์ว่า ในปีนี้ ประเทศอื่นๆ ในเอเชีย รวมถึงฟิลิปปินส์ จะมีการขึ้นดอกเบี้ยเช่นกัน
ทั้งนี้ บรรดาธนาคารกลางต่างเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อปรับนโยบายการเงินกลับคืนสู่ภาวะปกติ ผ่านการปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังมีการอัดฉีดเงินเข้าสู่เศรษฐกิจมานานหลายปี นับแต่เกิดวิกฤติการเงินปี 2551 ที่ถูกจุดชนวนขึ้นจากการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส
การเคลื่อนไหวของธนาคารกลางเหล่านี้ ได้แรงหนุนจากที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ประเมินว่า ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย จะมองเห็นการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ที่ 6.0% ในปี 2561 และ 5.9% ในปี 2562 สถานการณ์ที่ทำให้เกิดความกังวลว่า ถ้าหากธนาคารกลางเอเชียยังเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินไปอย่างต่อเนื่อง ก็อาจทำให้เศรษฐกิจร้อนแรงเกินไปในบางไตรมาส
ที่มา: Nikkei Asian Review
ADB ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียปีนี้ 6%
‘เอดีบี’ คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัว 4%
